โรงเรียนเตรียมทหาร
ครอบครัว นร.เตรียมทหาร จี้แจงลูกชายตายปริศนา-อวัยวะหาย
เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2560 นายพิเชษฐ -นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อ-แม่และพี่สาวของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 อายุ 18 ปี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 หลังกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้เพียง 1 วัน ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง หลังจากที่ พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เปิดเผยผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ว่าเกิดจากหัวใจวายเฉียบพลัน พร้อมระบุว่าแม้บิดา-มารดาของนายภคพงศ์จะไม่สบายใจ ก็ต้องว่าไปตามกระบวนการนั้น
ทางครอบครัวตัญกาญจน์เปิดเผยกับสื่อว่า รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่ พล.อ.ธารไชยยันต์ ออกมาเปิดเผย เนื่องจากปัจจุบันครอบครัวไม่เคยได้รับการติดต่อจากโรงเรียนเตรียมทหาร หรือแม้แต่ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อชี้แจงถึงสาเหตุการเสียชีวิต และสาเหตุที่ทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันแต่อย่างใด ต้องบอกว่าไม่เคลียร์กับคำพูดของผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพราะครอบครัวยังไม่ได้รับเอกสารชี้แจงเรื่องผลการชันสูตร และเพราะเหตุใดจึงรีบออกมาให้ข่าวว่าเป็นเพราะหัวใจวายเฉียบพลัน
ที่สำคัญก่อนหน้านี้โรงเรียนเตรียมทหาร ทำให้เข้าใจว่าได้ส่งศพนายภคพงษ์ไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ แต่ข้อเท็จจริงเมื่อ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจาก ผู้อำนวยการกองการแพทย์ และผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร คือ ศพนายภคพงศ์ถูกส่งไปยังสถาบันพยาธิวิทยา ที่ขึ้นอยู่กับกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ขณะที่ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พี่สาวของนายภคพงศ์ บอกว่าที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้รับเพียงใบมรณบัตรจากโรงเรียนเตรียมทหาร ที่ระบุสาเหตุว่า เกิดจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน และทางครอบครัวได้จัดพิธีฌาปนกิจที่ วัดวิเวการาม ตำบลบางพระ จังหวัดชลบุรี ไปเมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่มิได้นำศพเผาจริงในวันฌาปนกิจ เนื่องจากครอบครัวต้องการที่จะได้รับผลสนับสนุนและผลการชันสูตรที่แม่นยำ จึงตัดสินใจนำศพนายภคพงศ์ ส่งผ่าพิสูจน์รอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เนื่องจากเกรงว่าจะมีบางสิ่งในร่างกายที่สถาบันแรกอาจตรวจไม่พบ
ผลที่ได้รับถึงกับทำให้ครอบครัวตกใจ เพราะนอกจากจะพบรอยช้ำที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเกิดจากอะไรแล้ว ยังพบว่ามีการหักของซี่โครงซี่ที่ 4 ด้านขวา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ทำ CPR หัวใจ และยังพบรอยช้ำที่มุมขวาด้านหน้า เช่นเดียวกับบริเวณแผ่นหลัง นอกจากนี้ยังพบว่าอวัยวะสำคัญหลายส่วนหายไป ทั้งสมอง, หัวใจ , กระเพาะอาหาร และกระเพาะปัสสาวะ โดยที่ไม่เคยได้รับการบอกกล่าวจากผู้อำนวยการกองการแพทย์ โรงเรียนเตรียมทหาร ตั้งแต่เมื่อครั้งนายภคพงษ์เสียชีวิต แต่ครอบครัวกลับได้รับแจ้งเพียงว่า ขออนุญาตตัดชิ้นเนื้อบางส่วนเพื่อทำสไลด์หาสาเหตุการเสียชีวิตเท่านั้น
จากการสอบถามแพทย์ที่ผ่าพิสูจน์รอบ 2 บอกว่า ไม่เคยเจอกรณีที่มีการนำอวัยวะออกไปโดยไม่แจ้งให้ญาติทราบ ซึ่งปกติจะต้องมีการทำเอกสารขออวัยวะ แต่กองการแพทย์ โรงเรียนเตรียมทหารไม่เคยทำเอกสารใดๆ แจ้งมาทางครอบครัว และสิ่งที่ยอมรับไม่ได้คือคำพูดของผู้บัญชาการทหารสูงสุด เพราะผลจากการนำไปแยกธาตุรอบ 2 ยังไม่ออกมา จึงจะรอผลการชันสูตรของสถาบันที่ 2 ก่อน จากนั้นผลจะออกมาเป็นเช่นไรก็จะยอมรับ
ทางครอบครัวจึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาอธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้นายภคพงศ์หัวใจวายเฉียบพลัน ว่าเกิดจากอะไร ที่สำคัญ ขณะนี้สถาบันที่ 2 ที่ทำการผ่าพิสูจน์ศพ ยังไม่ได้รับอวัยวะที่ถูกนำออกไป ทั้งที่ได้ทำเรื่องขอจากทางผู้อำนวยการกองการแพทย์ไปแล้วเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผลการชันสูตรรอบ 2 จะรู้ผลเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่ถูกนำออกไปว่าจะได้คืนเมื่อใด
(เพื่อนนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหารทำบุญตักบาตรอุทิศบุญกุศลให้นายภคพงษ์เมื่อวันที่ 25 ต.ค.)
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา พลตรีกนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ทางโรงเรียนเสียใจกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น และได้มีคำสั่งให้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อดำเนินการสอบสาเหตุการเสียชีวิต โดยมีรองผู้บัญชาการโรงเรียนเป็นประธาน และขั้นตอนการสอบสวนจะรวมถึงการเรียกพยานแวดล้อมที่ในวันเกิดเหตุมาสอบสวน แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยความคืบหน้าเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ครอบครัวตัญกาญจน์ยังได้นำเอกสารของสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายกมาเปิดเผยต่อสื่อในวันนี้ โดยในเอกสารดังกล่าวระบุว่า พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครนายกได้รับแจ้งเหตุว่านายภคพงศ์เสียชีวิตที่โรงพยาบาลนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 เวลาประมาณ 21.00 น.
ที่ผ่านมา การเสียชีวิตของนักเรียนเตรียมทหารขณะเข้ารับการฝึกอบรมในโรงเรียนเตรียมทหารไม่เคยถูกรายงานเป็นข่าวมาก่อน แต่กรณีพลทหารเสียชีวิตในค่ายทหาร เคยเกิดขึ้นแล้วหลายกรณี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
