นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึง กรณีที่มีข้อถกเถียงกันอย่างมากถึงการจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง และเดินเชียร์ลุง ว่า จำเป็นที่จะต้องแจ้งหรือขออนุญาตในการจัดงานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือไม่ ตนเห็นว่ากิจกรรมดังกล่าว เป็นกิจกรรมทางการเมือง (Political activities) ไม่ใช่กิจกรรมทางการกีฬาเฉยๆ การกล่าวอ้างว่าเป็นเพียงแค่กีฬา ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่นั้น เป็นการพูดของพวกศรีธนัญชัย ที่พยายามหาเหตุผลมากล่าวอ้างเพื่อเลี่ยงที่จะปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เท่านั้น ทั้งๆ ที่ปุถุชนทั่วไป หรือเด็กอมมือก็รู้ว่าเป็นเรื่องการเมือง

เขากล่าวต่อว่า การจัดกิจกรรมทางการเมืองดังกล่าวสามารถกระทำได้ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ม.44 บัญญัติไว้ แต่ต้องกระทำโดยสงบและปราศจากอาวุธ เพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นที่อาจไม่ชอบกิจกรรมดังกล่าวด้วยนั่นเอง ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 โดยผู้จัดหรือแกนนำจะต้องแจ้งหัวหน้าสถานีตำรวจในท้องที่ที่จะจัดเสียก่อน เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ออกมาอำนวยความสะดวกในการจัดกิจกรรม หากเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตก็สามารถร้องหรืออุทธรณ์ไปยังผู้บังคับบัญชาได้ภายใน 24 ชม. และอาจนำไปสู่การฟ้องศาลปกครองเพื่อคุ้มครองสิทธิได้

ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจะต้องไม่กีดขวางการจราจร ตาม พรบ.การจราจรทางบก 2522 และจะต้องมีการขออนุญาตใช้เครื่องขยายเสียง ตาม พรบ.ควบคุมการใช้เสียง และเครื่องขยายเสียง 2493 และต้องขออนุญาตเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตาม พรบ.การสาธารณสุข 2535 เสียก่อนเพราะอาจมีเหตุรำคาญเกิดขึ้นด้วย และต้องปฏิบัติตาม พรบ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง 2535 อีกด้วยเพราะหากฝ่าฝืนก็อาจมีโทษ

เขากล่าวต่อว่า ส่วนนักการเมืองและหรือพรรคการเมืองที่หนุนหลังไม่ควรทำตัวเป็นอีแอบคอยชักใยอยู่เบื้องหลัง ถ้าเป็นพรรคการเมืองของประชาชนต้องกล้าเปิดเผยให้ประชาชนทราบ เพราะการจัดกิจกรรมทางการเมืองไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร เพียงแต่ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดให้จงได้เสียก่อนเท่านั้น ไม่ใช่ว่าอ้างสิทธิและเสรีภาพตามที่รัฐธรรมนูญให้การคุ้มครองไว้แล้วจะกระทำการอย่างใดก็ได้นั้น เป็นความคิดที่ผิด หากนักการเมืองผู้ใดพูดและส่งเสริมให้กระทำเช่นนั้น อาจเข้าข่ายขัดต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งมีโทษหนัก จึงขอเตือนไว้ก่อน

ด้าน ธนวัฒน์ วงศ์ไชย นักกิจกรรมทางการเมือง และกรรมการแนวร่วมสมาพันธ์ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุง เปิดเผยกับ voice online ว่า หากจะมีการมองว่างานวิ่งไล่ลุงเป็นกิจกรรมทางการเมือง หรือการชุมนุมทางการเมือง ก็ต้องยึดหลักว่า การชุมชนทางการเมือง หรือการทำกิจกรรมทางการเมืองเป็นสิทธิ และเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่รับรองไว้โดยรัฐธรรมนูญ โดยไม่ควรมีใครมาขัดขวางได้ สำหรับการจะมองว่าเป็นกิจกรรมทางการเมืองหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องที่ละคนจะมอง

ส่วนกรณีที่มีการแนะนำให้ไปขออนุญาตเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ธนวัฒน์ ยืนยันว่า ตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ มาตรา 3(3) ระบุว่า การจัดกีฬา หรือการจัดวิ่ง ไม่จำเป็นต้องแจ้งการชุมนุมล่วงหน้า

"เวลาอ่านกฎหมายก็ต้องอ่านให้ดี ต้องละเอียด รอบคอบ เข้าใจว่าคุณศรีสุวรรณน่าจะมีประสบการณ์เรื่องนี้ดี เพราะก็เคยร้องเรียนเรื่องต่างๆ หลายเรื่องแล้ว" ธนวัฒน์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• 'ผู้กองมาร์ค' ถาม 'ประยุทธ์' วิ่งไล่ลุง ผิดตรงไหน จี้ใจ หรือผิดที่ชื่อ
• ม.วลัยลักษณ์ ออกแถลงการณ์งดจัด 'วิ่งไล่ลุง' ชี้เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง