ต่างประเทศ
รัสเซียใช้โดรนถล่มยูเครนต่อเนื่อง ยิงข้ามปีทั้งในกรุงเคียฟและพื้นที่ตะวันออก
โอเล็กซีย์ คูเลบา ผู้ว่าการภูมิภาคเคียฟ เปิดเผยว่าการโจมตีจากรัสเซียในรอบล่าสุดนี้ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงวันก่อนปีใหม่ โดยการโจมตีเกิดขึ้นในช่วงไม่นานก่อนเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทั้งนี้ รัสเซียเล็งเป้าหมายการโจมตีใส่โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครน ทั้งนี้ มีชายผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายจากเศษซากโดรนรัสเซีย
ในอีกด้านหนึ่ง กองทัพอากาศยูเครนระบุว่ามีทหารรัสเซีย 400 ราย ถูกสังหารในช่วงวันก่อนปีใหม่ ณ พื้นที่มาคีอีฟกา พื้นที่ของยูเครนซึ่งถูกรัสเซียยึดครองในภูมิภาคโดเนตสก์ เช่นเดียวกันกับทางการนิยมระบอบรัสเซียในพื้นที่โดเนตสก์ ซึ่งออกมายอมรับว่ากองกำลังของตัวเองถูกยูเครนสังหาร ซึ่งนับได้ว่าเกิดขึ้นได้ยากมาก อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขจำนวนผู้เสียชีวิตจากฝ่ายนิยมระบอบรัสเซียแต่อย่างใด
การโจมตีโดยรัสเซียในรอบล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่ โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ออกมาตั้งคำอธิษฐานปีใหม่หลังการอวยพรปีใหม่ต่อประชาชนว่าขอให้ปี 2566 เป็นปีแห่งชัยชนะ และ “การกลับมาเป็นปกติ” ของยูเครนอีกครั้ง ในทางตรงกันข้าม วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ออกมาแถลงผ่านโทรทัศน์รัสเซีย โดยใช้ภาพพื้นหลังเป็นทหารรัสเซีย พร้อมระบุว่ารัสเซียจะต่อสู้เพื่อปกป้องอธิปไตย และความเป็นเอกราชของตัวเองต่อไป
กองทัพยูเครนได้ออกคำเตือนถึงการโจมตีครั้งล่าสุดโดยรัสเซีย หลังช่วงเวลา 01:00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “เกิดการโจมตีทางอากาศที่กรุงเคียฟ... มีการเตือนภัยทางอากาศในเมืองหลวง” ทั้งนี้ เซอร์ฮีย์ ปอปโก หัวหน้ากรมทหารของเมือง ได้ออกมาขอให้ประชาชนหลบอยู่ในที่พักพิงเพื่อความปลอดภัย
วิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ได้ออกมารายงานเหตุระเบิดในเขตเดสนยานสกี ซึ่งตั้งอยู่ทางพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเคียฟ และกล่าวว่าหน่วยฉุกเฉินกำลังเข้าช่วยเหลือระงับเหตุแล้ว พร้อมกล่าวเสริมว่ามี “ชายอายุ 19 ปีที่ได้รับบาดเจ็บ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในเขตดสนยานสกีของเมืองหลวง”
คูเลบากล่าวว่าอาวุธดังกล่าวที่รัสเซียใช้โจมตียูเครนในครั้งนี้ เป็นโดรนชาเฮ็ดที่ผลิตในอิหร่าน พร้อมระบุเสริมว่าพวกมัน “พุ่งเป้าไปที่สิ่งอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ” ก่อนย้ำเตือนว่า “สิ่งสำคัญในตอนนี้คือ (ประชาชน) ต้องสงบสติอารมณ์และอยู่ในที่กำบัง จนกว่าสัญญาณเตือนภัยจะหยุดลง”
การโจมตีในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีครั้งใหญ่ในวันส่งท้ายปีเก่า ซึ่งคร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 1 รายในพื้นที่กรุงเคียฟ ทั้งนี้ รัสเซียกำหนดเป้าหมายโจมตีใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนมาเป็นเวลาหลายเดือน ทั้งการทำลายโรงไฟฟ้า และทำให้ประชาชนหลายล้านคนตกอยู่ในความมืดมิดในช่วงฤดูหนาวของประเทศที่หนาวจัด
ที่มา:
