กระทรวงความปลอดภัยอาหารและยาแห่งเกาหลีใต้ เสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาออกคำสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟสำเร็จรูปในสถานศึกษา หลังผลสำรวจบ่งชี้ว่านักเรียนและนักศึกษาเกาหลีใต้นิยมดื่มกาแฟกันเป็นประจำ เพื่อให้สามารถติวหนังสือหรือเรียนพิเศษได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ดื่มกาแฟมากเกิน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน เพราะน้ำตาลในเครื่องดื่มมีปริมาณสูง
หากคำสั่งดังกล่าวผ่านความเห็นชอบและมีผลบังคับใช้ จะต้องไม่มีการขายกาแฟในสถานศึกษาทั่วประเทศ และครูหรือเจ้าหน้าที่ของสถาบันการศึกษาก็จะต้องงดเว้นการดื่มกาแฟไปด้วยเช่นกัน และขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดเคลื่อนไหวคัดค้านนโยบายดังกล่าว
ทั้งนี้ ระบบการศึกษาของเกาหลีใต้ขึ้นชื่อเรื่องการสอบแข่งขัน ทำให้เกิดความกดดันและภาวะตึงเครียดสูงแก่กลุ่มวัยรุ่น-วัยเรียนที่ต้องเตรียมความพร้อมในการสอบ ทำให้นักเรียนนักศึกษาจำนวนมากติดกาแฟ แต่ปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อทั้งสภาพร่างกายและจิตใจของนักเรียนนักศึกษา ทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้เห็นชอบให้ผลักดันนโยบายดูแลสุขภาพของประชาชนวัยเรียน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยกับสื่อในประเทศว่ารัฐบาลจะพิจารณาออกคำสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังที่มีปริมาณคาเฟอีนมากกว่า 150 มิลลิกรัมต่อ 1 ลิตร โดยอ้างอิงเหตุผลเดียวกับรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งระบุว่าการบริโภคคาเฟอีนเกินขนาดอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในระยะยาว เพราะเครื่องดื่มผสมคาเฟอีนมักมีน้ำตาลควบคู่กันในปริมาณสูง ทำให้ผู้บริโภคประสบปัญหาน้ำหนักเกินมาตรฐาน
นอกจากนี้ วัยรุ่นในอังกฤษมักนิยมนำเครื่องดื่มชูกำลังไปผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ และการบริโภคเครื่องดื่มผสมดังกล่าวเกินขนาดจะส่งผลให้ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ปวดท้อง หัวใจเต้นเร็ว ระคายเคือง ความดันโลหิตสูง และเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคน้ำหนักเกิน
ที่มา: CNN/ Fortune/ The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: