วานนี้ (9 ธันวาคม 2566) เวลา 19.00 น. ณ หอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย หรือ Chiang Rai International Art Museum (CIAM) ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ภายใต้แนวคิด ‘เปิดโลก’ หรือ ‘The Open World’ ซึ่งจัดโดยกระทรวงวัฒนธรรม โดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) ร่วมกับจังหวัดเชียงราย และภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ประจำปี 2554 เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ศิลปินเชียงราย และประชาชนชาวเชียงราย ตลอดจนสื่อมวลชน เข้าร่วมงาน ซึ่งเมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางถึงหอศิลป์ร่วมสมัยเมืองเชียงราย ได้ชมการแสดงศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย และทำพิธีเปิดงานโดยการตีกลองสะบัดชัย 3 ครั้ง ต่อด้วยรับฟังรายงานจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวในโอกาสการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ว่า ในนามของรัฐบาลรู้สึกยินดีที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติฯ ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมและจังหวัดเชียงรายจัดงานนี้ขึ้นในวันนี้ กระทรวงวัฒนธรรมโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยได้นำแนวคิดการจัดงานมหกรรมร่วมสมัยระดับโลกในต่างประเทศให้ปรากฏขึ้นในประเทศไทย ครั้งที่ 3 และจังหวัดเชียงราย นับจากจังหวัดกระบี่และจังหวัดนครราชสีมา
"ถือเป็นความภาคภูมิใจและยืนยันถึงความยิ่งใหญ่ในการเป็นศิลปะร่วมสมัยของประเทศไทยให้ชาวโลกได้รับรู้ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและการแข่งขันได้อย่างยั่งยืน" นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยฯ ครั้งนี้ จะเป็นวาระสำคัญในการจุดประกายให้คนไทยศิลปินชาวไทย นำจุดเด่นทางด้านศิลปวัฒนธรรมของบ้านเมืองเรามาแสดงศักยภาพเพื่อนำพาประเทศไปสู่การเป็นสังคมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต่อไป เหมือนกับประเทศต่างๆ ที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว งานครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นมหกรรมศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติเท่านั้น
"แต่ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการนำทุนทางวัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Soft Power มาเป็นเครื่องมือในการสร้างงานสร้างรายได้ในภาพรวม โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง เป็นการระดมความคิดเห็น ประสานมุมมองและความคิดสร้างสรรค์จากศิลปิน หน่วยงาน และชุมชนท้องถิ่นเพื่อสร้างสรรค์ผลงานผ่านการใช้นวัตกรรมต่างๆ ให้เกิดเป็นงานศิลปะร่วมสมัยที่หลากหลายอย่างน่าสนใจ ซึ่งทุกท่านจะได้รับชมผลงานต่อไป" นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทยขอขอบคุณกระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานศิลปะวัฒนธรรมร่วมสมัย ที่นำวิสัยทัศน์จากการศึกษางานศิลปะระดับโลกมาจัดเป็นงานศิลปะระดับนานาชาติในประเทศไทยได้สำเร็จอย่างต่อเนื่อง และขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หน่วยงานทุกภาคส่วนและประชาชนชาวเชียงราย ที่ได้มีส่วนร่วมในการบูรณาการงานครั้งนี้อย่างเข้มแข็งตลอดจนขอบคุณหน่วยงานภาคเอกชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ที่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการจัดงานและร่วมมือกันในการสนับสนุนอำนวยความสะดวกในการจัดงานด้วยดี และที่สำคัญยิ่งขอขอบคุณศาสตรเมธี ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ที่ทุ่มเทอุทิศแรงกาย แรงใจ กำลังทรัพย์และเป็นแกนนำในการขับเคลื่อนการจัดการในครั้งนี้ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพลังและศักยภาพของศิลปะที่สามารถขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดเชียงรายและประเทศไทย รวมทั้งขอบคุณศิลปินทุกท่านที่ได้ถ่ายทอดมุมมองความคิดสร้างสรรค์ในตัวของท่านเอง สื่อสารสุนทรียะออกมาเป็นรูปธรรม สร้างความปิติและส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้รับชมอย่างถ้วนหน้า จากนั้น นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมผลงานศิลปะและกิจกรรมบริเวณงาน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale ครั้งที่ 3 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 ธันวาคม 2566 - 30 เมษายน 2567 ภายใต้ชื่องาน Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 ด้วยแนวคิด “เปิดโลก” (The open World) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากพระพุทธรูปปางเปิดโลกที่โบราณสถาน วัดป่าสัก อำเภอเชียงแสน คัดเลือกผลงานจากศิลปิน 60 คน จาก 21 ประเทศทั่วโลก จัดแสดงเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) นิทรรศการหลัก แสดงผลงานศิลปะการจัดวางเฉพาะพื้นที่ (Site Specific Installation) จัดแสดงในเขตอำเภอเมืองและเชียงแสน 2) Pavilion หรือ ศาลา แสดงผลงานนิทรรศการกลุ่มของศิลปิน พิพิธภัณฑ์ และองค์กรต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ 10 แห่งในอำเภอเมืองและอำเภอใกล้เคียง 3) Collateral Events เป็นกิจกรรมพิเศษที่จัดขึ้นในช่วงงาน เช่น ดนตรีชาติพันธุ์ งานฉายภาพยนตร์ การแสดงอื่นๆ และการเยี่ยมชมบ้านหรือสตูดิโอของศิลปินในจังหวัดเชียงรายตามอำเภอต่างๆ
โดยการจัดงานมหกรรมศิลปะร่วมสมัยระดับนานาชาติไทยแลนด์เบียนนาเล่ เชียงราย 2023 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยมิติทางวัฒนธรรม และพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมวัฒนธรรมไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก พัฒนาสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้และสร้างสรรค์งานด้านศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนเสริมสร้างภาพลักษณ์ และยกระดับบทบาทด้านวัฒนธรรมของไทยในเวทีโลก และพัฒนางานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยไทยสู่ความเป็นสากลในอนาคต