นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ตามที่มีการทุจริตอย่างกว้างขวางของโครงการช่วยเหลือคนจน เงินสงเคราะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ที่ถูกนักศึกษาฝึกงานจับได้และเป็นผู้เปิดประเด็น จนทำท่าจะลุกลามกลายเป็นการโกงขนานใหญ่ไปหลายจังหวัดและอาจลามไปทั่วประเทศ เป็นการตอกย้ำการทุจริตคอร์รัปชันที่เกิดในรัฐบาลนี้ และตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งอาจจะมีการทุจริตมากว่า 3 ปีแล้ว
แม้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะย้ายปลัดกระทรวงและรองปลัดฯ ก็ไม่ได้แปลว่ารัฐบาลจะปัดความรับผิดชอบได้ เพราะถือเป็นการปล่อยให้เกิดการทุจริตขนานใหญ่ โดยเฉพาะเป็นการเบียดเบียนคนยากไร้ที่กำลังลำบาก ไม่มีปากมีเสียง
นอกจากนี้ยังเชื่อว่า หากมีการโกงกันขนาดนี้คนในรัฐบาลจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นการตัดตอนแค่ปลัดกระทรวงคงเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยก็แสดงถึงความด้อยประสิทธิภาพในการบริหารราชการ จึงทำให้เกิดการโกงได้ขนาดนี้
ทั้งนี้ นายพิชัยระบุด้วยว่า ขนาดโครงการช่วยคนจนยังปล่อยให้มีการโกง ทำให้ต้องตั้งคำถามว่า "จะมั่นใจได้อย่างไร ว่า โครงการไทยนิยมที่อาจจะต้องใช้เงินเป็นแสนล้านบาท และโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมากที่ต้องใช้เงินหลายแสนล้านบาท จะไม่มีการโกง และเมื่อมีการโกงก็จะโยนให้ข้าราชการรับผิดชอบอีกครั้ง ทั้งที่เงินคอร์รัปชันตกไปอยู่ในกระเป๋าใคร ประชาชนทั้งประเทศน่าจะทราบกันดี"
"ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลเริ่มพบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะเป็นปัญหามากยิ่งขึ้น ยิ่งนานยิ่งพบมากขึ้น ซึ่งทำให้ประชาชนทราบแล้วว่ารัฐบาลที่ตรวจสอบไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าจะไม่ทุจริต แต่อาจจะทุจริตมากกว่าทุกรัฐบาลด้วยซ้ำ"
อ่านเพิ่มเติม: