ไม่พบผลการค้นหา
ภาคีSaveบางกลอย ซัดรัฐบาลประยุทธ์ ตระบัดสัตย์ เช้าลงนามแก้ปัญหา เย็นบอกห้ามชาวกระเหรี่ยงกลับ 'แผ่นดิน' ด้าน 'เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์' เชื่อกระเหรี่ยงบางกลอย จะได้กลับมาชุมนุมใหม่แน่นอน เพราะกลไกแก้ปัญหาไม่สามารถบรรลุผลได้จริง

สืบเนื่องจากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามแต่งตั้ง คณะกรรมการแก้ไขปัญหาตามแนวทางการต่อสู้ของ P-move และลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และคืนสิทธิในที่อยู่อาศัยและที่ทำกินให้กับชาวบางกลอย ภายใน 30 วัน โดยแลกกับการให้ชาวกระเหรี่ยงบางกลอย และกลุ่ม P-move ยุติการปักหลักชุมนุมค้างคืนภายในเวลา 21.00 น. แต่ปรากฎว่าในช่วงเย็นวันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ชาวกระเหรี่ยงบางกลอยไม่สามารถกลับเข้าไปที่ใจแผ่นดินได้

ที่เวทีของกลุ่ม ภาคีSaveบางกลอย บริเวณเชิงสะพานมชัยมรุเชฐ ข้างทำเนียบรัฐบาล จึงยังคงมีการจัดกิจกรรมต่อในคืนนี้่ โดยภายในเวทีมีการกล่าวถึงการกระทำ และคำพูดของพล.อ.ประยุทธ์ ว่าเป็นการตระบัดสัตย์ ขณะที่ตัวแทนชาวกระเหรี่ยงบางกลอย เล่าว่า หลังจากนายกรัฐมนตรีลงนาม ก็มีการจัดหารถมารับชาวกระเหรี่ยงกลับไปที่จ.เพชรบุรี แต่ระหว่างเดินทางเห็นข่าวการให้สัมภาษณ์ของนายกฯ จึงทำให้ชาวกระเหรี่ยงบางส่วนตัดสินใจกลับมาที่ทำเนียบรัฐบาลอีกครั้ง

ทั้งนี้ตัวแทนภาคีSaveบางกลอย ได้อ่านแถลงการณ์ เรื่อง ชาวบางกลอยมีสิทธิกลับใจแผ่นดิน พร้อมยกระดับการเคลื่อนไหวหากรัฐตระบัดสัตย์ โดยมีรายละเอียดดัง

นับเป็นวันที่ 10 ที่ชาวบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยพวกเราคนเมืองที่รวมตัวกันในนามภาคี #SAVEบางกลอย ปักหลักชุมนุม ณ สะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย ในวันที่ชาวบ้าน 30 คนถูกแจ้งความดำเนินคดี ต้องเผชิญชะตากรรมจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยรัฐ รวมทั้งจากถ้อยแถลงของผู้มีอำนาจในหลายสถานการณ์

วันนี้เราบรรลุข้อเรียกร้องเบื้องต้น 4 ข้อ ได้แก่

1. ให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหากรณีชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย เพื่อทำหน้าที่ในการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อคืนสิทธิ์ให้ชาวบ้าน และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน

2. ให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เปิดประชุมโดยเร่งด่วน

3. ให้นำผลการประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

4. ให้พนักงานสอบสวนชะลอการส่งสำนวนคดีไปอัยการจนกว่าการแก้ไขปัญหากรณีบางกลอยของรัฐบาลจะได้ข้อยุติ

อย่างไรก็ตาม ยังปรากฏท่าทีของรัฐบาล คือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ได้แถลงข่าว สรุปความได้ว่า ขาวบ้านบางกลอยไม่มีสิทธิกลับใจแผ่นดิน ไม่ควรอ้างสิทธิตามรัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูกฎหมายลูกประกอบ

พวกเราเห็นว่า การแถลงข่าวเช่นนี้ของพลเอกประยุทธ์เป็นการตระบัดสัตย์ แสดงให้เห็นถึงความไม่เข้าใจในปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ไร้วิสัยทัศน์ใหม่ๆ ในการมองปัญหาสู่หนทางแก้ไขอย่างยั่งยืน อ้างแต่กฎหมายลูก กล่าวหาว่าชาวบ้านอ้างแต่รัฐธรรมนูญ ทั้งที่รัฐธรรมนูญคือกฎหมายแม่ คือกฎหมายลำดับสูงสุดของประเทศ ถ้าไม่ให้พวกเราประชาชนยืนยันรัฐธรรมนูญ จะให้ไปยืนยันกฎหมายไหน เราไม่อาจยอมรับ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ที่ผ่านการพิจารณาออกมาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติของท่าน ในช่วงรัฐบาลเผด็จการที่มาจากการยึดอำนาจรัฐประหารได้

ภายใน 30 วันนับจากวันนี้ หลังจากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมทั้งการพัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านบางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี พวกเราภาคี #SAVEบางกลอย จะติดตามและตรวจสอบการทำงานแก้ไขปัญหาของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด หากรัฐมีท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการแก้ไขปัญหาอีก พวกเราพร้อมจะยกระดับการเคลื่อนไหว ทั้งทางช่องทางออนไลน์ และภาคพื้นสนาม

โดยในช่วง 30 วันนี้ เราจะมีการลงพื้นที่ร่วมกับชาวบ้านบางกลอยเพื่อจับตาการทำงานของรัฐบาล รวมถึงการคุกคามละเมิดสิทธิมนุษยชนของเจ้าหน้าที่รัฐ ณ บ้านบางกลอยล่าง และมีกิจกรรมการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาในประเด็นนี้

พวกเราพร้อมกลับมาชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ตามปฏิบัติการ “ยุทธการไทยคู่ฟ้า” เหมือนที่ท่านใช้ “ยุทธการตะนาวศรี” และ “ยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร” กระทำกับชาวบางกลอย

และหากถึงวันนั้น คณะกรรมการฯ ที่ลงนามแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีไม่อาจทำงานแก้ไขปัญหาได้ เราจะกลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ และขับไล่ผู้ที่ลงนามให้ออกไปพ้นจากตำแหน่ง รวมทั้งหากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานยังคงมีการปฏิบัติการเลวทรามกับชาวบ้าน พวกเราจะเคลื่อนขบวนจากกรุงเทพมหานครไปหาท่านถึงที่ แล้วจับมือพาพี่น้องบางกลอยกลับสู่ใจแผ่นดิน ถิ่นฐานบรรพบุรุษ ทวงคืนสิทธิที่ดินชาวบางกลอยคืนสู่มือเจ้าของที่แท้จริง หลังจากถูกอุทยานแห่งชาติปล้นไปแล้ว 40 ปี นับจากการถูกประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อปี 2524

ท้ายที่สุดนี้ขอฝากถึงท่านพล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านจะเป็นอะไรก็ได้ โปรดอย่าลืมเป็นมนุษย์ด้วย

ด้าน เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ กลุ่มผู้จัดตั้งหมู่บ้านทะลุฟ้า กล่าวว่าแนวทางและข้อตกลงเช่นนี้ อาจดูเหมือนดี แต่ก็มีอีกแง่หนึ่งที่ต้องตั้งคำถามถึงแนวทางการเจรจาหรือข้อตกลงซึ่งโดยส่วนตัวเห็นว่าควรให้ชาวบางกลอยได้กลับบ้านใจแผ่นดินดังเดิมก่อนระหว่างรอแนวทางแก้ไขปัญหาจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น เพราะตอนนี้แม้ว่าชาวบางกลอยยุติชุมนุมไปแต่ก็ไม่ได้ไปอยู่แผ่นดินมาตุภูมิดังเดิม และแม้มีการชะลอการดำเนินคดี แต่หากขึ้นไปบ้านใจแผ่นดินและบ้านบางกลอยบน ก็จะมีความผิดในกรณีที่ชาวบางกลอย ที่ถูกจับกุมและดำเนินคดีก่อนหน้านี้ 20 กว่าคน ตามเงื่อนไขการประกันตัว 

เลิศศักดิ์ เชื่อว่า ไม่นานชาวบางกลอยก็จะได้กลับมาชุมนุมเรียกร้องอีก เพราะน่าจะมีอุปสรรคต่างๆ ในคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น จะไม่สามารถทำให้ชาวบางกลอยขึ้นไปอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่เดิมได้ หรือกลไกแก้ปัญหาไม่สามารถบรรลุผลสำเร็จได้จริง