นางบาร์บารา อันเดอร์วูด อัยการสูงสุดของรัฐนิวยอร์กทำการฟ้องมูลนิธิการกุศลของนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และลูกทั้ง 3 คน ประกอบด้วยนายโดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์, อิวังกา และ อิริก ทรัมป์
โดยนางอันเดอร์วูดกล่าวหาประธานาธิบดีและลูกว่านำเงินของมูลนิธิการกุศลไปใช้จ่ายในทางที่มิชอบ ทั้งในทางธุรกิจ การเมือง รวมถึงนำไปใช้จ่ายในเรื่องส่วนตัว ซึ่งสำนักงานอัยการสูงสุดใช้ระยะเวลาในการสืบสวน 2 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2016
นางอันเดอร์วูดยื่นฟ้องต่อศาล ร้องขอให้มีการยุบมูลนิธิทรัมป์และให้มีการชดใช้เงินเป็นจำนวน 2,800,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 90 ล้านบาท รวมทั้งเพิ่มบทลงโทษเพิ่มเติมด้วยการห้ามโดนัลด์ ทรัมป์ ทำหน้าที่หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเป็นกรรมการของมูลนิธิหรือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในรัฐนิวยอร์กเป็นระยะเวลา 10 ปี ขณะที่ลูกๆ ทั้ง 3 คนของทรัมป์ก็ถูกขอให้ห้ามทำงานเกี่ยวข้องกับการเป็นกรรมการของมูลนิธิใดๆ เป็นระยะเวลา 1 ปี หรือจนกว่าจะได้รับความไว้วางใจ
ในสำนวนคำร้องได้กล่าวหานายโดนัลด์ ปรัมป์ว่าใช้ทรัพย์สินของมูลนิธิในการชำระหนี้ตามกฏหมาย และเพื่อซื้อของใช้ส่วนตัว และยังนำเงินจากมูลนิธิไปใช้กับธุรกิจส่วนตัวด้วย จากการพบว่ามีอย่างน้อย 5 กรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ใช้ประโยชน์จากการบริจาคที่สามารถลดหย่อนภาษีได้
นอกจากนี้ การสืบสวนยังพบการใช้จ่ายในทางที่มิชอบในอีกหลายกรณี เช่น การนำเงินของมูลนิธิไปใช้โปรโมทธุรกิจโรงแรมของทรัมป์ เป็นต้น
มูลนิธิทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหาและกล่าวว่าการฟ้องร้องครั้งนี้เป็นการโจมตีทางการเมือง นอกจากนี้ยังกล่าวหาว่าอัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์กเป็นผู้ฝักใฝ่พรรคพรรคเดโมเเครต ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ส่วนโฆษกของมูลนิธิทรัมป์กล่าวว่า มูลนิธิบริจาคเงินมากกว่า 19 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 610 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจำนวนที่มากกว่าที่มูลนิธิได้รับเสียอีก และเหตุผลที่มูลนิธิสามารถบริจาคเงินจำนวนมากกว่าที่ได้รับบริจาคก็เพราะมูลนิธิแทบจะไม่มีรายจ่ายที่ต้องจ่ายออกไปเลย
ทรัมป์เองก็ได้มีการตอบโต้ทางทวิตเตอร์ว่าการฟ้องร้องในครั้งนี้เป็นการกระทำของพรรคเดโมเเครต โดยนายเอริก ชไนเดอร์แมน อดีตอัยการสูงสุดรัฐนิวยอร์กซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการสอบสวนในเรื่องนี้ตั้งแต่ปี 2016 เคยออกคำสั่งให้มูลนิธิทรัมป์ระงับการระดมทุนเนื่องจากไม่มีการจดทะเบียนที่ถูกต้อง ซึ่งนายโดนัลด์ ทรัมป์บอกว่านายเอริกสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อให้เขาถูกฟ้องร้องและทรัมป์จะไม่ยอมประนีประนอมต่อเรื่องที่เกิดขึ้น
ภาพ: AFP
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
