นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงประธานกรรมการป.ป.ช. ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีพฤติการณ์ เข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พศ. 2561 มาตรา 128 ประกอบมาตรา 169 หรือไม่
จากกรณีที่พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา เชิญชวนศิลปิน มาร่วมเป็นพิธีกรรายการหนึ่ง ของรัฐบาล จึงถือว่านายกรัฐมนตรีได้รับประโยชน์ เข้าข่ายการกระทำความผิดตามมาตรา 128 ที่ระบุว่า "ห้ามมิให้ เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด อันอาจคำนวณเป็นเงินได้จากผู้ใด นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎหรือข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์และจำนวนที่คณะกรรมการป.ป.ช.กำหนด"
นายเรืองไกรย้ำว่า การร้องให้ตรวจสอบในลักษณะดังกล่าว ไม่ได้มีเจตนาทางการเมือง แต่เพื่อความถูกต้อง และไม่ได้เลือกปฏิบัติ เพราะตรวจสอบมาทุกรัฐบาลและทุกพรรคการเมือง
นอกจากนี้ยังขอให้ตรวจสอบพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังออกมาโต้แย้ง เรื่องกรณีนาฬิกาหรู ว่า ได้คืนเพื่อนไปหมดแล้ว จึงขอให้คณะกรรมการป.ป.ช. อย่านิ่งเฉย ให้นำนาฬิกาที่อ้างว่าได้คืนแล้ว อายัดมาตรวจสอบ เพราะการรับนาฬิกา ที่มีมูลค่าหลายล้านบาท เข้าข่ายการรับประโยชน์อื่นใดตามมาตรา 128 พ.ร.ป.ป.ป.ช.เช่นกัน
พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การรอข้อมูล จากทางต่างประเทศ ตามที่ได้ร้องขอ ไปนั้น มีเจตนาช่วยขยายเวลาการตรวจสอบพลเอกประวิตร ออกไปหรือไม่
ทั้งนี้ นายเรืองไกร ได้ยื่นหนังสือให้คณะกรรมการป.ป.ช.ตรวจสอบพลเอกประวิตร ในประเด็นที่ไม่ได้แสดงบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน และกรณีร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ไปก่อนหน้านี้
อ่านเพิ่มเติม