นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีรถไฟฟ้าบีทีเอส เกิดปัญหาขัดข้องตลอดทั้งสัปดาห์ว่า กรุงเทพมาหนคร ผู้นำภาษีประชาชนไปให้สัมปทานเอกชน ต้องลงโทษสถานเดียว เพราะตลอด6เดือนมานี้มีปัญหากว่า 30 ครั้งทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายและมีโอกาสเสี่ยงสูงในการเดินทาง หากเป็นความขัดข้องทางด้านความปลอดภัยใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ถ้าเป็นรถไฟฟ้าในต่างประเทศ ขณะนี้ผู้บริหารทั้ง กทม. และบีทีเอส ลาออกแสดงสปิริตกันไปแล้ว
นายจิรายุ กล่าวว่า หากเกิดปัญหาถี่มาก ทฤษฎีการแก้ใขปัญหาที่ดีที่สุดคือยกเลิกสัมทานทันที แต่กทม.เอาใจผู้ประกอบการเกินไปหรือไม่ หรือเป็นเพราะมีคดีความที่ กทม.ไปต่อสัญญาให้กับบีทีเอสไปถึง 13 ปี มูลค่าหลายแสนล้านบาท ที่ตนได้ร้องให้ตรวจสอบอยู่ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)อยู่ติดคออยู่หรือไม่ วันนี้บีทีเอสและกรุงเทพมหานครต้องออกมาขอโทษประชาชนแทนการติดป้ายขออภัย โดยต้องชดใช้ความให้กับประชาชนด้วยการให้ขึ้นฟรีอย่างน้อย 15 วัน กรุงเทพมหานครต้องเป็นตัวแทนตั้งทนายความให้กับบผู้ใช้บริการที่สูญเสียโอกาสทางธุรกิจเพื่อฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในการเดินทาง ต่อเอกชนผู้รับสัมปทาน
"กรุงเทพมหานครต้อง ว่าจ้างบริษัท ผู้ตรวจสอบระบบขนส่งสาธารณะชั้นนำจากต่างประเทศมาตรวจสอบระบบทั้งหมดของบีทีเอส ที่เปิดมา 20 กว่าปีว่ามีความปลอดภัยในระดับสากลเพียงพอหรือไม่ กรุงเทพมหานครต้องออกมาคาดโทษว่าหากเกิดปัญหาเช่นนี้อีกจะมีบทลงโทษอย่างไร ขณะเดียวกันควรพิจารณาให้บริษัทอื่นเข้ามาบริหารจัดการต่อ เพราะถือว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมากพอที่จะมีทางเลือกให้รายอื่นที่มีคุณภาพหรือมาตรฐานดีกว่าเข้ามาบริหารการขนส่งสาธารณะ และปัญหาที่เกิดขึ้นมากพอต่อการยกเลิกสัมปทานได้แล้ว" นายจิรายุ กล่าว