เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2565 ที่ Parco Condo & Hotel by Bonanza Khaoyai จ.นครราชสีมา พรรคร่วมฝ่ายค้านจัดโครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชน ภายใต้ชื่อ "ทั่วไทยทวงคืนอำนาจประชาชน ครั้งที่ 4 : รัฐบาลสั่นคลอน สภาฯ ล้มลุกคลุกคลาน" โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ปาฐกถาพิเศษว่า รัฐบาลสั่นคลอนเรื่องแรก ผู้ยึดอำนาจต้องการสร้างเพื่อสืบทอดอำนาจ โดยให้ผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญเขียนกติกาทำลายพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม เปิดโอกาสให้พรรคขนาดเล็กมีโอกาสรวบรวม รัฐบาลมาจากรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้น อ้างว่าจะมาช่วยเหลือประชาชน แต่รัฐธรรมนูญกลับมาทำลายการบริหารราชการแผ่นดินชุดนี้ เป็นรัฐบาลไม่สนใจประชาชนและไม่สนใจนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน เพราะรัฐธรรมนูญนี้ผูกมัดประชาชนไว้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และรัฐบาลสั่นคลอนไร้เสถียรภาพที่มาทำให้สั่นคลอนยังไม่พอ เมื่อมีโอกาสมาบริหารประเทศชาติบ้านเมือง ผลงานที่เกิดขึ้น มีความพึงพอใจกับสิ่งที่รัฐบาลบริหารหรือไม่ ทุกคนบอกว่าเมื่อไรจะออกไป 

นพ.ชลน่าน ระบุว่า อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ 3 ครั้ง แต่รัฐบาลก็ยังอยู่ได้ ทุจริตถุงมือยางก็ไม่มีคำตอบทนอยู่ต่อไป เหมืองทองอัครา ทุกคนต้องร่วมภาระรับใช้หนี้ เพราะเขาใช้คำว่าราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้นายกฯ จะอยู่ในตำแหน่งรวมกันเกิน 8 ปีมิได้ แต่ซีกรัฐบาลก็มีคำตอบในใจอยากจะอยู่ในอำนาจต่อ

มีข่าวแพลมเพื่อแก้ปัญหาให้เขาอยู่ต่อได้ มี 2 เรื่อง 1.ยุบสภาฯ เร็ววันนี้ก่อนมีกฎหมายเลือกตั้ง และสามารถรักษาการอยู่ยาวครบวาระจนเกิน 8 ปีได้ 2.สมประโยชน์ทุกฝ่าย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกเมื่อครบ 8 ปี และต้องเข้าสู่กลไกเลือกนายกฯในสภาฯ เพราะคนที่มีอำนาจเลือกนายกฯ เป็นคนของเขาเลือกเท่าไรก็ไม่ได้นายกฯ มีโอกาสอยู่ยาวถึง 23 มี.ค. 2566

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พี่ใหญ่เป็นผู้จ่ายหนักดูแลทุกเรื่อง ขณะที่น้องรอง น้องเล็กมีแต่รับอย่างเดียว แย่ที่สุดเมื่อก่อนพี่ใหญ่มีอำนาจวาสนาได้คุมกระทรวงแต่ตอนนี้เป็นรองนายกฯเท่านั้น ทำให้ผลประโยชน์ไม่ลงตัวเกิดความร้าวฉาน และหวังว่ารัฐบาลจะคืนอำนาจให้ประชาชน 

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า สภาฯ ล่ม 17 ครั้ง เมื่อรัฐบาลเสื่อมไร้ความสามารถ เมื่อรัฐบาลสิ้นสภาพ เมื่อรัฐบาลเสื่อมสภาพ พวกเราต้องทวงอำนาจให้กับประชาชน โดยพรรคฝ่ายค้านมีมติออกแถลงการณ์บอกรัฐบาลชุดนี้ เรามีมติร่วมกันว่าขีดเส้นใต้ให้กับความล้มเหลว ขีดเส้นตายให้รัฐบาลสิ้นสภาพ