ไม่พบผลการค้นหา
กระแสปลูกพืชขนาดเล็กกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียลทั่วโลก โดยเฉพาะคนในเมืองใหญ่ที่โหยหาความสงบและเรียบง่าย ทำให้พืชอวบน้ำชนิดต่างๆ รวมถึงกระบองเพชร ถูกซื้อหาไปปลูกตามที่พักอาศัยหรือออฟฟิศกันมากขึ้น

เมื่อเดือน ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา นิตยสารด้านเศรษฐกิจ 'ดิอีโคโนมิสต์' รายงานว่า กลุ่มคนรุ่นใหม่ยุคมิลเลนเนียลซึ่งเกิดหลัง พ.ศ. 2523 (ค.ศ. 1980) เป็นต้นมา หันมาปลูกและเลี้ยงดูต้นไม้ขนาดจิ๋วในที่พักอาศัยกันเป็นจำนวนมาก อ้างอิงจากการเก็บข้อมูล Google Trend ของเว็บไซต์กูเกิล ซึ่งรวบรวมสถิติการค้นคำศัพท์หรือประเด็นต่างๆ ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลผ่านกูเกิลในแต่ละช่วงเวลา พบว่าการค้นหาคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับพืชขนาดจิ๋ว ทั้งกระบองเพชร พืชอวบน้ำ ต้นไม้แขวน และพืชอื่นๆ ที่สามารถปลูกในอาคารได้รวม 40 ชนิด มีจำนวนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณ 10 เท่าจากผลสำรวจเมื่อปี พ.ศ. 2553 เป็นต้นมา 

นอกจากนี้ รายได้จากการส่งออกดอกไม้และพืชพันธุ์ต่างๆ ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกไม้ดอก-ไม้ประดับรายใหญ่ของโลกก็เพิ่มจากปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2543 เป็น 9,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2559 ขณะที่ประชากรในสหภาพยุโรปใช้จ่ายเงินเป็นค่าต้นไม้สำหรับประดับตกแต่งภายในบ้าน รวมเป็นเงินกว่า 42,000 ล้านดอลลาร์ และในสหรัฐอเมริกา คนยุคมิลเลนเนียลคิดเป็น 1 ใน 3 ของผู้ซื้อพืชจิ๋วและไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งภายในบ้าน 

กระแสดังกล่าวส่งผลให้ธุรกิจสตาร์ทอัพ-อีคอมเมิร์ซที่ขายและจัดส่งไม้ดอกไม้ประดับภายในบ้าน เช่น Patch และ The Sill เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในสหรัฐฯ โดยสินค้าที่เป็นจุดขายมีทั้งพืชขนาดเล็กสำหรับปลูกในอาคาร รวมถึงกระถางซึ่งถูกออกแบบให้มีสีสันและรูปทรงทันสมัย สบายตา พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านหรืออาคารสำนักงาน โดยคุณสมบัติที่สำคัญของพืชเหล่านี้ คือ มีขนาดเล็ก ดูแลง่าย ไม่กินพื้นที่ 

ดิอีโคโนมิสต์ระบุว่า อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้กระแสนิยมพืชจิ๋วแพร่หลายในกลุ่มคนรุ่นใหม่ในสหรัฐฯ เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงานที่คงที่ ทำให้คนรุ่นใหม่นิยมอาศัยอยู่กับพ่อแม่หรือเช่าที่อยู่อาศัย แต่ไม่นิยมเป็นเจ้าของ เพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก แต่การแสวงหาพืชต่างๆ มาประดับตกแต่งที่พัก เป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่สามารถจัดการได้ ทั้งในแง่ของเศรษฐกิจและการดูแลรักษา


unsplash-พืชอวบน้ำ-ซัคคิวเลนท์-succulent-ต้นไม้ประดับบ้าน+พืชจิ๋ว+ต้นไม้จิ๋ว

ตลาดกระบองเพชร-พืชอวบน้ำในไทย 'โตต่อเนื่อง'

ความนิยมชมชอบพืชจิ๋วหรือต้นไม้ที่สามารถปลูกในอาคารที่พักอาศัย ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศตะวันตก เพราะในประเทศไทยเองก็มีกระแส 'กระบองเพชร' (cactus) และ 'พืชอวบน้ำ' (succulent) ซึ่งมียอดจำหน่ายที่ดีทั้งร้านค้าออนไลน์และตลาดต้นไม้ที่จัดขึ้นเป็นประจำตามพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการจัดมหกรรมพืชจิ๋วตามห้างสรรพสินค้าและคอมมิวนิตี้มอลล์ปีละหลายครั้ง ซึ่งคนรักต้นไม้หรือพืชจิ๋วก็จะติดตามไปชมและช็อปปิงกันอยู่เรื่อยๆ 

'เอมี่' ผู้ขายกระบองเพชรและไม้อวบน้ำรายหนึ่งซึ่งประกอบธุรกิจด้านนี้มานานกว่า 5 ปี บอกกับ 'วอยซ์ออนไลน์' ว่า คนเมืองชอบพืชจิ๋วเหล่านี้เ พราะใช้พื้นที่ในการดูแลน้อย 


"ชีวิตในเมืองมันแข่งขันเยอะ เครียดเยอะ แล้วคุณมีพวกต้นไม้ แม้จะเป็นต้นเล็กๆ สีเขียวน้อยๆ ที่อยู่ในบ้าน มันก็ช่วยเติมให้ชีวิตสดใสขึ้น"


เอมี่บอกด้วยว่า คนไทยส่วนใหญ่ชอบ 'ฮาโวเทีย' พืชอวบน้ำที่ใบมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ อวบใส และเลี้ยงง่าย ไม่ต้องอาศัยแดดแรงนัก บางชนิดมีราคาตั้งแต่ 3,000 - 6,000 บาท แต่บางชนิดก็สามารถขายในราคาที่แพงขึ้นได้ เช่น ฮาโวเทียด่าง และภายในตลาดขายพืชจิ๋วเหล่านี้ บางกระถางก็มีราคาสูงถึงหลักหมื่นบาท

ขณะเดียวกัน ผู้ซื้อกระบองเพชรและพืชอวบน้ำรายหนึ่ง ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ บอกว่า เวลาที่เครียด หรือทุกข์ เมื่อได้นั่งมองดูพืชจิ๋วที่เลี้ยงดูก็ทำให้สบายใจมากขึ้น เพราะเธอมองพืชเหล่านี้เหมือนเป็นลูก หรือเป็นครอบครัว ทั้งยังระบุด้วยว่า บางคนเลือกที่จะเลี้ยงหมาหรือเลี้ยงแมวไว้เป็นเพื่อน แต่บางคนอาจไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะสามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ ก็หันมาเลี้ยงต้นไม้แทน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: