ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโลมาลินดา มหาวิทยาลัยเพนสเตรท มหาวิทยาลัยทรัฟท์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียร์ลอสเเองเจลิส และมหาวิทยาลัยเวคฟอเรส ประกาศหาอาสาสมัครกว่า 1,000 คน ที่ชื่นชอบการรับประทานอะโวคาโด เพื่อเข้าร่วมการวิจัยเรื่อง พฤติกรรมการไดเอตและคุณค่าโภชนาการของอะโวคาโด
แม้ว่าอะโวคาโดจะเป็นที่รับรู้กันว่าเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยในการลดคอเลสเตอรอล แต่ทีมนักวิจัยยังมีข้อกังวลว่าผลไม้ดังกล่าวอาจไม่ได้มีประโยชน์เท่าที่เรารับรู้กัน
"ตั้งแต่อะโวคาโดถูกยกย่องให้เป็นผลไม้ที่มีไขมันมากที่สุดกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ และมันดูไม่สมเหตุสมผลที่อะโวคาโดจะสามารถช่วยในการลดไขมันหน้าท้องได้" ทีมวิจัยจากโลมาลินดากล่าว
ขณะที่ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงในวารสารสมาคมโรคหัวใจของอเมริการะบุว่า "การกินอะโวคาโด 1 ลูกต่อวันนั้นเพื่อทดแทนการทานไขมันอิ่มตัว มีผลต่อเรื่องความดันโลหิตต่ำ" ทั้งนี้ ทางทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนน์สเตรทจะทำการตรวจสอบถึงผลลัพท์ของการกินอะโวคาโดว่าไม่เพียงแต่มีผลต่อไขมันหน้าท้องเท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์กับเรื่องโรคหลอดเลือดและหัวใจด้วย ซึ่งการวิจัยดังกล่าวจะให้ผู้เข้าร่วมวิจัยรับประทานอะโวคาโด 1 ผล หรือ 2 ผลต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยได้ประกาศหาคุณสมบัติของผู้ที่จะมาเข้าร่วมในงานวิจัยครั้งนี้ว่า จะต้องมีอายุ 25 ปีขึ้นไป และมีรอบเอวขึ้นต่ำ 35 - 40 นิ้ว ขึ้นอยู่กับเพศ และต้องเป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์หรือวางแผนที่จะตั้งครรภ์หรือการให้นมบุตร
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมวิจัยจะได้รับค่าตอบแทน 300 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 9,900 บาท และได้รับอะโวคาโด จำนวน 24 ผล ไปรับประทาน รวมไปถึงจะได้รับผลตรวจสุขภาพ ภายหลังเสร็จสิ้นการวิจัยดังกล่าวด้วย
ที่มา CNN / TIME