คลิปภาพนักชีววิทยาทางทะเลพยายามดึงหลอดออกจากรูจมูกของเต่าทะเลตัวหนึ่งสร้างความวิตกกังวลแก่หลายฝ่าย โดยเฉพาะประเด็นขยะพลาสติกที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นทั่วโลก ส่งผลให้ในวันอาทิตย์ (27 พ.ค. 2561) ที่ผ่านมา อาสาสมัครกว่า 2,000 คน ร่วมกันทำความสะอาดชายหาดบนเกาะลัมมาทางตอนใต้ของฮ่องกง หวังช่วยชีวิตเต่าทะเลให้รอดพ้นจากขยะพลาสติก เนื่องจากนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมออกมาเตือนว่า ขยะพลาสติกกำลังฆ่าชีวิตเต่าทะเล และสัตว์อื่นๆ เป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และนักสิ่งแวดล้อม กล่าวโทษว่าการบริโภคพลาสติกของประชากรจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดขยะในทะเล นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์เรือชนกันบริเวณน่านน้ำของจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้น้ำมันทะลักไหลบ่าลงสู่ทะเลทางใต้ของฮ่องกง ก่อนไขน้ำมันจะถูกซัดสู่แนวชายฝั่งของฮ่องกงเป็นจำนวนมาก จนทางการต้องสั่งปิดชายหาดไม่ให้นักเที่ยวลงเล่นน้ำ พร้อมแสดงความกังวลว่าสารปนเปื้อนในทะเลจะสร้างมลพิษ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำ
การทำความสะอาดเกิดขึ้นบริเวณชายหาดเชคไป่ว้าน (Shek Pai Wan) ใกล้ๆ กับอ่าวชามว้าน (Sham Wan) หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม 'อ่าวเต่า' บนเกาะลัมมาของฮ่องกง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพิกัดสำคัญที่เต่าทะเลมักขึ้นฝั่งมาวางไข่ ทำให้ทุกๆ ปีต้องปิดบริการแก่นักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนมิถุนายน-สิ้นเดือนตุลาคม
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องน่าเศร้ามากเมื่อ ชารอน กว๊อก (Sharon Kwok) นักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ไม่เห็นเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ในพื้นที่ดังกล่าวอีกเลย เพราะส่วนใหญ่เต่าทะเลจำนวนมากมักต้องจบชีวิตลงหลังติดอยู่กับซากตาข่าย บ้างก็โดนใบพัดเรือความเร็วสูงฟัน และที่น่าเป็นห่วงสุดๆ คือการกินขยะพลาสติกเข้าไป
“เต่ามักเข้าใจผิดว่า ถุงพลาสติกเป็นแมงกะพรุน และกินพวกมันเข้าไป” ชารอน กว๊อก กล่าว
บนชายหาดเชคไป่ว้านอาสาสมัครรวบรวมขยะจำนวนนับ 10 ถุง ที่เต็มไปด้วยหลอดดูดน้ำ ช้อน ส้อม กล่องโฟม แปรงสีฟัน ถุงพลาสติก และขยะพลาสติกที่แตกหักเป็นชิ้นเล็กๆ ทำให้อาสาสมัครบางคนจำเป็นต้องใช้ตระแกรงร่อนทราย เพื่อแยกเศษขยะออกจากเม็ดทราย
“มองจากระยะไกลมันดูเหมือนเป็นเพียงก้อนหิน และกรวดธรรมดาเท่านั้น แต่ถ้าคุณมองใกล้ๆ จะพบความจริงว่ามีพลาสติกขนาดเล็กอยู่เป็นจำนวนมาก และเต่าทะเลก็คิดว่ามันเป็นอาหาร” ทอมมี จุ่ย (Tommy Tsui) อาสาสมัครอายุ 14 ปีกล่าว
ปีนี้ เต่าตนุจำนวน 7 ตัว ขึ้นฝั่งมาวางไข่บนเกาะฮ่องกง แต่ทางด้านนักอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อมเชื่อมั่นว่า ยังคงมีเต่าจำนวนอีกไม่น้อยเสียชีวิต และซากศพจมลงสู่ก้นทะเล ทำให้บรรดานักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมเรียกร้องให้ทางการขยายการขอบเขตพื้นที่หวงห้ามออกไปรอบๆ อ่าวชามว้าน
“ฉันหวังว่า พวกเขาสามารถขยายพื้นที่เขตหวงห้ามให้กว้างขวางขึ้น ตามมาด้วยอัตราการรอดตายของเต่าที่สูงขึ้น” เคทลิน ชิว (Caitlin Chiu) อาสาสมัครอายุ 13 ปีกล่าว
ที่ผ่านมา รายงานของกลุ่มกรีนพีซระบุว่า หลอดพลาสติกเป็นขยะพลาสติกหนึ่งในสิบอันดับที่ถูกพบมากสุดบริเวณชายหาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: