นายวันชัย บุนนาค ทนายความอิสระ ยื่นหนังสือ ถึงประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช. ให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับ พลตำรวจเอกชัยยะ ศิริอําพันธ์กุล อดีตเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และคณะเจ้าหน้าที่ปปง. กรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินการตรวจสอบ ผู้รับโอนเงิน ที่เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อโดยทุจริตของผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินแล้วว่า ผู้บริหารธนาคารกรุงไทยที่ปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร มีความผิด ตามกฎหมายฟอกเงิน ปี 2558
พร้อมระบุด้วยว่าด้วยหลักการตามกฎหมาย เลขาธิการปปง.จะต้องมีคำสั่งตรวจสอบและวิเคราะห์เส้นทางการเงินของกลุ่มบุคคลและนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อทุจริตดังกล่าว ทุกรายเพื่อดำเนินการยึดหรืออายัด และขอให้ศาลสั่งให้ตกเป็นของแผ่นดินหรือชดใช้ผู้เสียหาย
แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่าอดีตเลขาธิการปปง. ได้สั่งการให้ตรวจสอบและอายัดทรัพย์สินเพียงบางส่วน ทั้งที่ความเสียหายมีมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาท และผู้รับเงินรายใหญ่ที่สุดได้แก่ธนาคารกรุงเทพฯเจ้าหนี้เดิมของกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ที่เจตนาลดหนี้ ต่ำผิดปกติ ไม่ถูกยึดหรืออายัดเงินดังกล่าว
นายวันชัย ระบุเพิ่มเติมว่า อดีตเลขาธิการปปง.ยังละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยให้เจ้าหน้าที่ปปง. กล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับเงินทุจริตปล่อยสินเชื่อดังกล่าวเพียง 4 ราย ในปี 2559 โดยเจตนาไม่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และไม่ร้องทุกข์ผู้รับโอนเงินรายอื่นๆอีกกว่า 100 ราย ทั้งที่เป็น กลุ่มบุคคลและนิติบุคคล ที่รับเงินจากนายวิชัย กฤษดาธานนท์ และกลุ่มบริษัทในเครือกฤษดามหานคร ทั้งสิ้น ทั้งที่อายุความของกลุ่มผู้รับโอนเงิน ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี กำลังจะหมดลงในเดือนกันยายนปี 2561 เป็นต้นไป
จากการกระทำดังกล่าวถือเป็นการเลือกปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งสร้างความเสียหายให้แก่รัฐ และไม่สามารถติดตามนำเงินดังกล่าวหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดกลับ คืนสู่แผ่นดินได้ และทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการรับเงิน ไม่ถูกดำเนินคดี โดยเจาะจงเลือกปฏิบัติอย่างไม่โปร่งใสและไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม
อ่านเพิ่มเติม