การเมือง
'อธิรัฐ' รัฐมนตรีอายุน้อยที่สุด ลั่นขอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์การทำงาน
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ไม่ตื่นเต้นในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมครั้งแรก เพราะมีคุณพ่อ (นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล) เป็นที่ปรึกษาและคำแนะนำที่ดี ซึ่งส่วนตัวไม่มีความกดดันในการทำงานครั้งนี้แม้จะอายุน้อยที่สุด และรัฐมนตรีชุดเดิมทั้ง 2 คน คือนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ และนายไพรินทร์ ชูโชติถาวรได้รับการยอมรับในเรื่องของการทำงาน ซึ่งนายอธิรัฐขอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
ส่วนนโยบายต่างๆ ของกระทรวงคมนาคม นายอธิรัฐ ยืนยันว่า จะสานต่อโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และทางด่วน ซึ่งจะขับเคลื่อนเป็นโยบายหลัก โดยขณะนี้ทางกระทรวงฯ ยังไม่ได้แบ่งงานที่จะต้องรับผิดชอบ คงต้องรอหลังเข้ากระทรวงฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 กรกฎาคมนี้
เมื่อถามว่าอยากรับผิดชอบงานด้านใดเป็นพิเศษหรือไม่ นายอธิรัฐ ระบุว่า ไม่เกี่ยง ส่วนตัวพร้อมทำงานทุกๆ ด้านตามที่ได้รับมอบหมาย
ทั้งนี้ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็น ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ วัย 35 ปี จบการศึกษา รัฐศาสตรบัณฑิต (การเมืองการปกครอง) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท Master of Arts (Merit) London Metropolitan University อังกฤษ และ บริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิต (การบริหารธุรกิจ) มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เป็นบุตรของนายวิรัช รัตนเศรษฐ และ นางทัศนียา รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.โคราช
ประสบการณ์ทำงานเคยเป็นอดีตปลัดอำเภอ จ.นครราชสีมา และอดีตปลัดอำเภอ จ.จันทบุรี เคยเป็น ส.ส. ปี 2554 ซึ่งเดิมสังกัดพรรคเพื่อไทย และเพิ่งย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งปี 2562
'วราวุธ' แก้มือหลังเคยเป็น รมช. 68 วัน รอบนี้พร้อมทำงาน เริ่มที่แก้ปัญหาพะยูน-โลมา
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการปฏิบัติหน้าหลังจากนี้ว่า วาระเร่งด่วนที่ต้องทำทันที คือการแก้ปัญหาเรื่องพะยูนและโลมา เกยตื้น โดยจะมีการตรวจพื้นที่และกำหนดโซนนิ่งอย่างเข้มงวด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการสูญพันธุ์ นอกจากนั้นจะขอความร่วมมือผู้ประกอบการประมง ให้ใช้อุปกรณ์หาปลาอย่าระมัดระวัง และต้องสร้างจิตสำนึกในการช่วยกันป้องกันทรัพยากรชายฝั่ง
โดยเหตุการณ์ล่าสุดทั้งพะยูนมาเรียม และโลมาติดเรือประมงล่าสุด สร้างความสะเทือนใจให้กับตัวเองเป็นอย่างมาก ซึ่งการแก้ปัญหาเหล่านี้จะเริ่มต้นภายในประเทศ ก่อนที่จะมีการประสานกับประเทศเพื่อนบ้านต่อไป ซึ่งหลังจากนี้จะเริ่มเข้าทำงานกระทรวง เพื่อทำความรู้จักข้าราชการในวันที่ 22 กรกฎาคม จากนั้นคาดว่าจะเริ่มได้เข้าทำงานอย่างเต็มที่ตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป
นายวราวุธ กล่าวอีกว่า การทำงานร่วมรัฐบาลครั้งนี้ ตัวเองมีเป้าหมายส่วนตัวที่ต้องทำหน้าที่รัฐมนตรีให้มากกว่าเดิม เพราะก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ได้เพียง 68 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
