ทหาร 5 นายรวมตัวกันในนามขบวนการรักชาติแห่งกองกำลังป้องกันและรักษาความมั่นคงแห่งกาบอง (PMDSFG) นำกำลังอาวุธบุกยึดสถานีวิทยุโทรทัศน์และการกระจายเสียงแห่งชาติในกรุงลิเบรอวิลล์ เมืองหลวงของกาบอง ประเทศในแถบแอฟริกาตะวันตก ช่วงเช้าตรู่วันที่ 7 ม.ค.2562 โดยคณะทหารดังกล่าวอ่านแถลงการณ์ประกาศเหตุผลในการยึดอำนาจ เนื่องจาก 'อาลี บองโก' ประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่มาจากการเลือกตั้ง อาจจะไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นผู้นำประเทศ
คณะทหารดังกล่าวระบุว่า ประธานาธิบดีบองโกมีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ยังหวงอำนาจ ไม่ยอมสละตำแหน่ง ที่อยู่มานานกว่า 10 ปีให้แก่ผู้อื่น และอ้างว่าการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่จัดขึ้นในปี 2559 มีปัญหาทุจริต ขบวนการ PMDSFG จึงจำเป็นต้องดำเนินการยึดอำนาจคืน เพื่อฟื้นฟูประชาธิปไตย พร้อมเรียกร้องให้ประชาชน 'ลุกฮือขึ้น' ต่อต้านรัฐบาล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้อยู่บริเวณสถานีโทรทัศน์ได้ยินเสียงปืนยิงปะทะอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่กลุ่มทหารจะอ่านแถลงการณ์ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ แต่ในเวลาต่อมา โฆษกของรัฐบาลได้แถลงยืนยันว่า กลุ่มทหารดังกล่าวถูกจับกุมในฐานะกบฎ โดย 4 นายถูกจับกุมได้ที่สถานีฯ แต่ทหารอีก 1 นายหลบหนีไปได้ และกำลังถูกตามล่าตัว ซึ่งคาดว่าจะเป็น ร.ท.ออนโด โอเบียง ผู้นำขบวนการ PMDSFG
ที่ผ่านมา ปธน. บองโก แถลงว่าตนเองมีปัญหาสุขภาพ และเดินทางไปรักษาอาการป่วยที่ซาอุดีอาระเบียเมื่อเดือน ต.ค. 2561 แต่ขณะนี้กำลังพักฟื้นอยู่ที่โมร็อกโก ทำให้คณะทหารใช้เหตุผลดังกล่าวเป็นข้ออ้างในการพยายามก่อรัฐประหาร แตไม่สำเร็จ
เดอะการ์เดียนรายงานอ้างอิงคำแถลงของ กาย แบร์ทรองด์ โฆษกรัฐบาลกาบอง ซึ่งประกาศว่า กองทัพและนายทหารระดับสูงไม่ให้ค่าขบวนการตัวตลกเหล่านี้ และยืนยันว่ารัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดได้แล้ว แต่มีประชาชนอย่างน้อย 300 ราย รวมตัวกันบริเวณสถานีกระจายเสียงเพื่อสนับสนุนกลุ่มทหารกบฎ และในที่สุดก็ถูกทหารหน่วยความมั่นคงที่สนับสนุนรัฐบาลใช้ปืนแรงดันน้ำยิงสลายการชุมนุม
ขณะที่มุสซา ฟากี มะฮะหมัด ประธานสหภาพแอฟริกา (AU) แถลงประณามความพยายามก่อรัฐประหารครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้ เช่นเดียวกับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งกำลังทหาร 80 นายเข้าปกป้องทรัพย์สินและอาคารในกรุงลิเบรอวิลล์ที่อยู่ในความดูแลของสหรัฐฯ แต่ไม่ได้กล่าวประณามการก่อรัฐประหาร
ทั้งนี้ ปธน.บองโก วัย 59 ปี เป็นทายาทของโอมาร์ บองโก มหาเศรษฐีธุรกิจพลังงานเชื้อเพลิงของกาบองซึ่งล่วงลับไป แต่ก็มีส่วนทำให้เขาถูกกล่าวหาว่าใช้อำนาจหน้าที่ทางการเมืองเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจแก่เครือญาติ บองโกชนะการเลือกตั้งสมัยแรกเมื่อปี 2552 และได้รับเลือกกลับมาดำรงอีกจนถึงการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2559 ซึ่งเขาถูกกล่าวหาว่าทุจริตการเลือกตั้ง เพราะมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงดังกล่าว แต่ ปธน.บองโก ก็ยังชนะเลือกตั้งไปด้วยคะแนนกว่าร้อยละ 49.8 และองค์กรสังเกตการณ์การเลือกตั้งจากต่างประเทศระบุว่าไม่พบสิ่งที่บ่งชี้ว่ามีการโกงเลือกตั้งเกิดขึ้น