พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลฯ ดร.สุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (สพร.) ดร.นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ดร.อนุชิต อนุชิตานุกูล และนายสมโภชน์ อาหุนัย ทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ร่วมแถลงข่าว ประเด็นที่สังคมมีคำถาม เรื่องแอปพลิเคชัน “หมอชนะ”
รมว.ดีอีเอส ยืนยันว่า ได้ทำงานพัฒนาแอปพลิเคชัน หมอชนะ ร่วมกันกับทีมอาสากว่า 100 ชีวิต ตลอดเวลาเกือบ 1 ปี และทุกวันนี้ยังหารือการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีความขัดแย้งกัน ก็ยังทำงานมาด้วยดีมาโดยตลอด ซึ่งการส่งมอบการดูแลระบบแอปพลิเคชันนั้น เนื่องด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันหมอชนะได้ส่งมาทาง สพร. ที่เตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการใช้งาน 30-40 ล้านคน และยังพัฒนาต่อเนื่องเพื่อรองรับการใช้งานที่มากขึ้น ใช้กับประชาชนทั้งประเทศได้ เมื่อถึงวันนี้รัฐบาลรับช่วงต่อมา เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบเก็บข้อมูลต้องใช้บุคลากรจำนวนมากและต้องทำให้เกิดคุณภาพ ทางทีมพัฒนาและสพร. ที่ส่งมอบมาให้ทำต่อนั้น เนื่องจากขนาดการใช้งานใหญ่ขึ้นให้ประชาชนทั้งประเทศได้ใช้ และต้องทำในระยะยาว จึงต้องโอนถ่ายมาให้รัฐบาลรับผิดชอบทำให้เป็นระบบ รัดกุมทางกฎหมาย และบริหารทั้งงบประมาณและบุคลากรทั้งหมดให้สมบูรณ์ มีประสิทธิภาพ
พุทธิพงษ์ ให้ความเชื่อมั่นการใช้งานแอปพลิเคชัน หมอชนะ ว่า การทำงานของแอปพลิเคชัน ฟังก์ชัน สีสถานะเพื่อการติดตามสอบสวนโรคซึ่งหลังจากนี้ต้องตั้งเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นในการทำงานให้สามารถรองรับการใช้งานที่ขยายในการใช้มากขึ้น ยังคงรณรงค์ให้ประชาชนใช้งานแอปมากขึ้น เพราะเป็นประโยชน์มาก เมื่อใช้แอป และเมื่อมีคนติดเชื้อ การสอบสวนโรคจะรวดเร็วมากและควบคุมสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น
ด้าน ดร.อนุชิต และ สมโภชน์ กล่าวขอบคุณประชาชนที่แสดงความห่วงใยทีมงานผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน หมอชนะ และขอบคุณที่ประชาชนให้ความร่วมมือในการโหลดและใช้งานแอปพลิเคชัน ในการต่อสู้ในสงครามโควิด ซึ่งทีมอาสาสมัครหมอชนะ ได้พัฒนาแอปพลิเคชันมาระยะหนึ่ง และจำเป็นต้องส่งต่อให้ รัฐบาลในการใช้งานและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยทีมอาสาสมัครผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน หมอชนะ ขอบคุณทั้งรมว.ดิจิทัลฯ ปลัดกระทรวงดิจิทัล และสพร. รวมถึงกรมควบคุมโรค ทำงานกันมาตั้งแต่กุมภาพันธ์ ปี 63 จนเมื่อถึงระดับการใช้งานที่ขยายมากขึ้นจึงส่งต่อให้ทางรัฐบาลดูแลและใช้งานอย่างเป็นทางการ และสิ่งสำคัญคือต้องมีกระบวนการการสื่อสารที่ชัดเจนและมาในทิศทางเดียวกัน ไม่ทำให้เกิดความสับสน พร้อมกันนี้ ขอให้คนไทยร่วมมือกันใช้แอปพลิเคชันหมอชนะนี้ ในการช่วยต่อสู้กับโควิดอย่างจริงจัง ให้เราชนะให้ได้
ขณะเดียวกัน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยัน ได้ทำงานร่วมกันกับคณะทำงานผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน กับทางสพร. มาตั้งแต่ต้น ซึ่งเรื่องการเปลี่ยนสีสถานะของแต่ละบุคคล ต้องผ่านคนกลางที่เป็นเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรคแต่ละพื้นที่ ส่งข้อมูลไปยังกระทรวงดิจิทัลฯ หากมีการเปลี่ยนสี และส่งต่อไปให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน อัพเดทข้อมูลสถานะสีให้ และจะเปลี่ยนสี ก็ต่อเมื่อโรงพยาบาลได้ยืนยันการติดเชื้อแล้วเท่านั้น ขอให้ประชาชนได้โหลดและลงทะเบียนใช้งานกันให้มากที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์และช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในการทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น ล่าสุด มีผู้โหลดใช้งานแล้วกว่า 7 ล้านครั้ง ซึ่งมีแนวโน้มคนใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ
รมว.ดีอีเอส ระบุว่า ระบบการแจ้งเตือนสถานะสีของแอปพลิเคชัน ไม่มีปัญหา ไม่มีการล็อคสีไว้ให้เป็นสีเขียวอย่างเดียว ซึ่งทางกรมควบคุมโรคจะเป็นผู้ควบคุมข้อมูลและยืนยันสีสถานะข้อมูลของผู้ใช้งานหน่วยงานเดียวเท่านั้น ยืนยันว่าระบบไม่มีปัญหา แต่อาจจะต้องใช้เวลาให้เจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคได้ตรวจสอบอย่างถูกต้องชัดเจน และการส่งมอบแอปพลิเคชัน หมอชนะ จะไม่ทำให้เกิดปัญหา แต่เนื่องจากการใช้งานมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เปิดให้ประชาชนใช้งานทั่วประเทศจำนวนผู้ใช้จึงมากขึ้น รวมทั้ง รัฐบาลควรมีงบประมาณในการดูแลทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชันในการทำงาน ในการเพิ่มบุคลากรในการรองรับให้มากขึ้น ซึ่งทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชันเอง ก็ยังคงคอยเป็นที่ปรึกษาและช่วยการทำงานของรัฐบาลต่อไป ทุกอย่างจะยังทำงานเหมือนเดิม และระบบจะดีขึ้นกว่าเดิม