วันที่ 28 ก.พ. 2566 สมพงศ์ ตั่นไพบูลย์ ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด นำหลักฐานยื่นฟ้อง นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นจำเลยที่ 1 บริษัท เอนิวซัน จำกัด ผู้ผลิต และเจ้าของลิขสิทธิ์รายการ ‘สนธิทอล์ค’ (Sondhitalk) จำเลยที่ 2 รวมถึงกรรมการบริษัท ได้แก่ นางสาวธันย์ธนัตภัค วรรณวัฒนากิจ จำเลยที่ 3, นายวินเนอร์ เดชเพียร จำเลยที่ 4 และนายธีร์ธวัช สังวรเวชภัณฑ์ จำเลยที่ 5 ต่อศาลอาญารัชดาฯ ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หลังถูกนายสนธิกล่าวหาว่า บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซื้อขายเครื่องขุดบิตคอยน์ รับฝากวางเครื่องขุดบิตคอยน์ กระทำการ “ลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์” พร้อมเรียกค่าเสียหายจำนวน 29 ล้านบาท โดยศาลได้รับคำฟ้องคดีหมายเลขดำที่ อ.556 /2566 และศาลมีกำหนดวันนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 15 พ.ค. พ.ศ. 2566 เวลา 09.00 น.
สมพงศ์ ตั่นไพบูลย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ นายสนธิ ได้กล่าวหา บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ผ่านทางรายการสนธิทอล์ค ซึ่งนายสนธิเป็นผู้ดำเนินรายการว่า “ลักไฟหลวงขุดบิตคอยน์” นั้น สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ คุณแทนไทได้ฟ้องต่อศาลแพ่งคดีหมายเลขดำที่ พ.553/2566 และต่อมาเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 2566 ศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามนายสนธิ พูดหรือแสดงข้อมูลใด ๆ ว่า บริษัท ไมนิ่งโปร จำกัด ลักกระแสไฟฟ้ามาใช้ จึงได้รวบรวมข้อเท็จจริงมาฟ้องต่อศาลในวันนี้
“ในช่วงที่ผ่านมา สนธิได้พูดกล่าวหา บริษัท ไมนิ่งโปร ในรายการสนธิทอล์ค ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ อีกหลายครั้ง ทำให้ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง สร้างความเข้าใจผิดต่อบริษัท ทำให้ถูกดูหมิ่นและเกลียดชัง แม้นายสนธิจะใช้ข้ออ้างว่าตนเป็นสื่อมวลชน มีสิทธิเสรีภาพในการพูดวิพากษ์วิจารณ์บุคคลอื่นได้ แต่ก็ควรตรวจสอบข้อมูลให้แน่ชัดก่อนที่จะกล่าวหาผู้อื่นโดยปราศจากข้อเท็จจริง อีกทั้งยังใช้สื่อโซเชียลในเครือข่ายของตัวเองที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนซ้ำ ๆ ว่าบริษัท ไมนิ่งโปร ลักไฟหลวงมาใช้ จนทำให้เกิดความเสียหายต่อธุรกิจของบริษัท ไมนิ่งโปร เป็นอย่างมาก” สมพงศ์กล่าว