ไม่พบผลการค้นหา
ชีวิตของ 'บิ๊กโจ๊ก' พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เปรียบเป็น 'แมวเก้าชีวิต' จากอดีต ผบ.ตร.น้อย ถูกฟ้าผ่าชีวิตเปลี่ยนชนิดที่ว่า 'ขึ้น 5 ปี ลง 5 วัน' จนต้องพ้นรั้ว สตช. มายัง ทำเนียบฯ กลายเป็น ขรก.พลเรือน จนสุดท้าย 'ไร้มลทิน' ได้กลับ สตช. อีกครั้ง ในยุค “บิ๊กปั๊ด”พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.

ในยุคนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมาผงาดอีกครั้ง กลับคืนสู่อ้อมอก “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็ยังคงคิดต่อกับ พล.อ.ประวิตร อยู่ตลอด แม้ว่า พล.อ.ประวิตร จะไม่ได้คุม สตช. แล้วก็ตาม เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ นั่งคุม ตร. นั่งเป็น ประธาน ก.ตร. ด้วยตัวเอง เพื่อดึงอำนาจ “คุมตำรวจ” มาไว้ในมือแทน

ล่าสุด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ปรากฏตัวที่ ทำเนียบฯ เพื่อร่วมประชุมกับ พล.อ.ประวิตร ในการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ พร้อมได้รับแต่งตั้งเป็น ประธานคณะทำงานประสานและติดตามงานด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์

นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังได้รับมอบหมายงานปราบ “หนี้นอกระบบ” โดยเป็น รอง ผอ.ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สตช. ซึ่งเป็นงานที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ทำมาก่อนโดนปลดฟ้าผ่านั่นเอง

ดังนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กลับมาเฉิดฉาย และแผ่ “บารมี” ใน สตช. อีกครั้ง

แต่เป็น “ก้าวย่าง” ที่ระมัดระวังมากขึ้น ทำให้ “ทางลม” ใน สตช. เปลี่ยนไป ย่อมสะเทือนถึง “บารมี” ของ “บิ๊กแป๊ะ”พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผบ.ตร. ใน สตช. ที่ลดน้อยลง ที่สะท้านมาถึง “สนามการเมือง” ด้วย

พล.ต.ท. สุรเชษฐ์

แม้ว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ กับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะเป็น “น้องเลิฟ” ของ พล.อ.ประวิตร แต่เมื่อครั้งเกิดเรื่องปลดฟ้าผ่า ก็ทำให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กับ พล.อ.ประวิตร มีระยะห่างต่อกัน

อีกทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ถูกผลักไปอยู่ข้าง พล.อ.ประยุทธ์

แต่เมื่อ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เกษียณอายุราชการ เมื่อ ต.ค. 2563 ก็ทำให้ “ระยะห่าง” กับ พล.อ.ประวิตร ลดลง หลังได้ชวน พล.ต.อ.จักรทิพย์ มาลงสนามผู้ว่าฯ กทม.

ส่วน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ก็คัมแบ็ค สตช. อีกครั้ง เป็นไปในลักษณะ “ต่างคนต่างอยู่” ภายใต้ “2ป.”

จนมาเกิดเรื่อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ประกาศถอนตัวชิงผู้ว่าฯ กทม. หนึ่งในสาเหตุที่มีการตีความว่า มาจาก “ศึกสีกากี” ในอดีตหรือไม่

หรือเป็น “ศึกใหม่” ระหว่าง พล.ต.อ.จักรทิพย์ กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. ที่มีแนวทางส่ง ส.ก. ต่างกัน ก่อนที่ ร.อ.ธรรมนัส จะย้ำถึงสัมพันธ์กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เปรียบเป็น “คอหอยกับลูกกระเดือก”

ผ่านมาไม่นาน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ปรากฏกายลงพื้นที่ จ.สกลนคร กับ พล.อ.ประวิตร ในฐานะ “คณะทำงานรองนายกฯ” แต่ยังติดเงื่อนไขต้องเว้นวรรคการเมือง 2 ปี หลังพ้นตำแหน่ง ส.ว. เมื่อ ต.ค.63 จึงเหลือระยะเวลาอีกไม่ถึง 1 ปี ในการมีตำแหน่งการเมือง โดย พล.อ.ประวิตร ก็เตรียมอ้าแขนรับเข้า พปชร. เพื่อมาดูพื้นที่ “อีสานตอนบน” การลงพื้นที่ จ.สกลนคร จึงมีนัยยะซ่อนอยู่

จักรทิพย์ ชัยจินดาประวิตร  อุดรธานี วัดป่าบ้านตาด  54000000.jpg

ส่วนสัมพันธ์ “2ป.ประยุทธ์-ประวิตร” ถือว่า “ฟื้นตัว” ขึ้นมาก หลังแต่ละฝ่าย “ยอม” กันมากขึ้น ว่ากันว่า พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้รับ “สัญญาณ” ให้อยู่ต่อ เพื่อสานต่อสิ่งต่างๆ ถือเป็น “ทางลมสำคัญ” ที่ส่งไปถึง “องคาพยพ”ในการพุ่งมายังสาย พล.อ.ประยุทธ์ โดยเฉพาะ “นายทุน” ที่รอความชัดเจนนี้อยู่

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้ออกมาตอกย้ำ กลางวง ส.ส.กรุงเทพฯ ถึงสัมพันธ์ “พี่ป้อม-น้องตู่” ที่รักกัน ไม่มีอะไรมาพรากได้ ยกเว้นความตาย ยืนยันไม่มีแตกแยก พร้อมคอนเฟิร์มต่อหน้าชาวบ้านที่ จ.อุดรธานี ว่าตนสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไป หลัง พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งควงทั้งประคอง พล.อ.ประวิตร ลงพื้นที่ ไหว้พระ ทำบุญร่วมกัน ถือเป็นการลงพื้นที่ด้วยกันครั้งแรก หลังเกิดศึกใน พปชร. ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ที่ตามมาด้วย “ศึกวัดพลัง” ระหว่าง “พี่น้อง 2ป.”

ทั้งนี้จะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงหลังมีท่าที “ผ่อนคลาย” มากขึ้น แม้จะเดิน “สะดุด” บ่อยครั้ง และให้เหตุผลว่า “คิดนำหน้า” ไปก่อนแล้วก็ตาม จนเกิดคำถามว่า นายกฯ อยู่ในสภาวะ “ใจลอย” หรือไม่ ? 

ประยุทธ์-กลาโหม

แต่อีก “กองหนุนสำคัญ” อย่าง “กองทัพ” แม้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมี “ระยะห่าง” กับ ผบ.เหล่าทัพ ชุดใหม่ ที่ไม่ได้เติบโตมาสายเดียวกับ “3 ป.บูรพาพยัคฆ์” หรือเป็น “เด็กในบ้าน” เฉกเช่นยุค คสช. และมี “รุ่นเตรียมทหาร” ที่ห่างกันกว่า 10 ปีด้วย

แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็พยายาม “กระชับสัมพันธ์” เมื่อได้พบปะ ผบ.เหล่าทัพ เช่น การประชุมสภากลาโหม ที่ทักทาย ผบ.เหล่าทัพ อย่างเป็นกันเองอยู่ตลอด เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานในหมวกนายกฯ เป็นหลัก 

ส่วนหมวก “สนามไชย 1” มอบให้ “บิ๊กช้าง”พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม รับผิดชอบเป็นหลัก ที่สั่งการสิ่งต่างๆผ่าน รมช.กลาโหม เพื่อไปยัง ผบ.เหล่าทัพ และ พล.อ.ชัยชาญ ยังได้รับมอบให้ไปชี้แจงและตอบกระทู้ถามสดในสภาแทนอยู่ตลอด

หากดูก้าวย่าง ผบ.เหล่าทัพ ก็ยังคงหนุน พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ “องคาพยพ” เดียวกัน แต่ไม่ได้ “ออกตัวแรง” มากนัก ด้วย “ระยะห่าง” และสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนไปช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

แต่ด้วย พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับ “สัญญาณอยู่ต่อ” จึงยิ่งทำให้ “ผนึกกำลัง” กันมากขึ้น เว้นแต่สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอีก หรือมี “ตัวเลือกใหม่” ขึ้นมา

แต่ในเวลานี้ชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ยังคงเป็น “ตัวเลือก” ที่ถูกใช้งาน แม้จะมี “ศึก” ระหว่างทาง ทั้ง “ศึกใน-ศึกนอก” ที่งัดข้อต่อรองอำนาจ แต่ก็เป็นไปตาม “วิถีการเมือง” ที่ต้องเผชิญ แต่ “เงื่อนไขการเมือง” วันนี้ชัดเจน ใครคิดอย่างไร ย่อมนำมาสู่การ “เลือกฝั่ง” ด้วย

ทว่าหาก “เกมพลิก” อะไรก็เปลี่ยนแปลงได้ เดิมพันครั้งนี้ จึงสูงนัก !

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog