นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ข้าว ว่า ร่างกฎหมายที่กำลังพิจารณาอยู่ขณะนี้ เป็นร่างของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไม่ใช่ร่างของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่กระทรวงได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการข้าวเข้าไปให้ความเห็นในคณะกรรมาธิการฯ และได้เสนอความเห็น 2 เรื่อง คือ ยังไม่ควรกำหนดให้มีการลงทะเบียนผู้ประกอบการค้าพันธุ์ข้าวและไม่ควรมีการรับรองพันธุ์ข้าว เนื่องจากจะเกิดผลกระทบต่อชีวิตชาวนาในการผสมพันธุ์หรือขยายพันธุ์ข้าว แม้จะเอาบทบาททั้งหมดให้กับกรมการข้าว แต่กรมการข้าวเป็นกรมที่มีลักษณะทางวิชาการ ไม่ได้มีหน้าที่บังคับใช้ทางกฎหมาย และโครงสร้างกรมการข้าวก็มีไม่ครบทุกจังหวัด เกรงว่าจะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามร่างกฎหมายได้ รวมถึงสาระสำคัญทั้งการรับรองพันธุ์ข้าวและการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการค้าพันธุ์ข้าวมีกฎหมายเกี่ยวกับพันธุ์พืชและการรักษาพันธุ์พืชอยู่แล้ว ซึ่งมีหลักการเดียวกัน และทราบว่าคณะกรรมาธิการฯ มีการปรับแก้ถ้อยคำแล้ว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด
ส่วนการพิจารณาห้ามใช้สารเคมีพาราคอต นายกฤษฎา บอกว่า อยากให้ไปดูหนังสือที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำถึงคณะกรรมการวัตถุอันตราย ไม่เคยบอกให้มีการขยายเวลาใช้สารเคมีพาราคอต และบอกไปว่าทางกระทรวงไม่เห็นด้วยกับการใช้สารเคมีที่มีอันตรายต่อร่างกายและชีวิตมนุษย์ แต่เนื่องจากกระทรวงเกษตรไม่ได้เป็นประธานและเลขาคณะกรรมการวัตถุอันตราย จึงเพิ่งทราบรายละเอียดของมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งมีสาระสำคัญเพียงว่า ให้คงตามมติเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ที่ให้จำกัดการใช้สารเคมี โดยไม่ได้พูดถึงกรอบระยะเวลา ไม่ได้มีมติตามข้อเสนอของกระทรวงเกษตรฯ แต่อย่างใด จึงอยากให้สังคมเข้าใจว่ากระทรวงเกษตรไม่ได้ขอขยายระยะเวลาการใช้สารเคมี และกระทรวงเกษตรฯ เป็นเพียง 5 คนจาก 29 คนในคณะกรรมการวัตถุอันตรายเท่านั้น กระทรวงเกษตรฯ จึงไม่สามารถออกประกาศห้ามหรือให้ใช้สารเคมีทั้ง 3 ชนิดด้วยตนเองได้ เพราะจะผิดกฎหมายหากไม่มีมติของคณะกรรมการวัตถุอันตรายมารองรับ แต่หากมติที่ออกมาไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือประชาชนเห็นว่ากรรมการวัตถุอันตรายคนใดมีส่วนได้เสียหรือขาดคุณสมบัติสามารถฟ้องร้องต่อศาลปกครองได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง