วันที่ 12พ.ค.66 เวลา 14.30 น.ที่สำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อขอให้ใช้อำนาจตาม ม.22 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ในการสั่งให้พรรคการเมืองต้นสังกัดของบุคคลที่มาทำร้ายร่างกายตนในสถานที่ราชการและหมิ่นประมาท ได้ยุติการกระทำและปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 พ.ค.66 เวลาประมาณ 11.15 น. ที่ผ่านมา หลังจากที่ตนให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน หลังจากที่เดินทางมาให้ถ้อยคำประกอบคำร้องต่อ กกต. กรณีร้องเรียนให้ตรวจสอบนโยบายหาเสียงแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทของเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย ก็ปรากฏว่ามีชายสูงอายุ ปรี่เข้ามาทำร้ายร่างกายและด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายต่อหน้าสื่อมวลชน ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บต่อร่างกายและจิตใจ ถูกเกลียดชัง ซึ่งตนได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วบางส่วนตามประมวลกฎหมายอาญา และในอนาคตจะแจ้งความเพิ่มเติมอีกหลายฐานความผิดอีกด้วย
การกระทำดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง แต่เนื่องจากชายดังกล่าว ยอมรับในรายการโหนกระแส ทางช่อง 3 ว่าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองหนึ่ง และเมื่อตรวจสอบพบข้อมูลเบื้องต้นอาจเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองจริง ซึ่งเป็นหน้าที่ของนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง ที่จะต้องตรวจสอบสถานะการเป็นสมาชิกพรรคของบุคคลดังกล่าว และหากพบว่าบุคคลดังกล่าวเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดแล้วไซร้ ให้นายทะเบียนพรรคการเมืองได้บังคับใช้ ม.22 แห่ง พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 โดยพลัน โดยรีบแจ้งไปยังคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองของบุคคลดังกล่าวให้มีมติ หรือสั่งการให้สมาชิกพรรคยุติการกระทำโดยพลัน และกำหนดมาตรการหรือวิธีการที่จำเป็นเพื่อมิให้สมาชิกผู้ใดกระทำการอันมีลักษณะดังกล่าวอีก
ทั้งนี้ หากพรรคการเมืองต้นสังกัดของชายสูงอายุดังกล่าวเพิกเฉย ก็ขอให้สั่งให้นายะเบียนพรรคการเมืองเสนอเรื่องต่อ กกต.เพื่อพิจารณามีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะตามที่กฎหมายบัญญัติต่อไป