กองทัพจีนได้ตัดสินใจทำลายเขื่อนกักเก็บน้ำแห่งหนึ่งใกล้เมืองลั่วหยาง ในมณฑลเหอหนาน เพื่อระบายมวลน้ำมหาศาลออกและเพื่อเปลี่ยนทิศทางของน้ำให้ไหลไปทางอื่น จากการที่เขื่อนกักเก็บน้ำดังกล่าวมีปริมาณน้ำเต็มความจุท่ามกลางความเสี่ยงที่เขื่อนอาจแตกเนื่องจากปริมาณฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่อง ซ้ำเติมสถานการณ์อุทกภัยในเมืองเจิ้งโจว
รายงานระบุว่า กองทัพจีนตัดสินใจดำเนินการระเบิดเขื่อนดังกล่าวช่วงกลางดึกของคืนวันอังคารที่ผ่านมา เพียงไม่นานหลังเกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ของมณฑลเหอหนาน โดยเฉพาะเมืองเจิ้งโจว เมืองเอกของมณฑล ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประชาชนหลายคนต้องติดอยู่ในระบบรถไฟฟ้า อพาร์ตเมนต์ และตึกสำนักงานต่างๆ ถนนหลายสายถูกตัดขาด ทางการท้องถิ่นจีนระบุว่า มีชาวเมืองกว่า 1.2 ล้านคน ที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งในเมืองเจิ้งโจว และทั่วมณฑลเหอหนาน ประชาชนกว่า 2 แสนคน ต้องอพยพ จำนวนนี้กว่าครึ่งเป็นชาวบ้านในเมืองเจิ้งโจว ขณะที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองมีน้ำท่วมสูงถึงกว่า 1.5 เมตร มีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 3 ล้านคน
ข้อมูลล่าสุดพบว่า นับตั้งแต่กเกิดเหตุอุทกภัยมียอดผู้เสียอย่างน้อย 33 คน จำนวนนี้รวมถึง 12 คนที่เสียชีวิตในเหตุน้ำท่วมในรถไฟฟ้าใต้ดิน
ทางการจีน ได้ระดมทีมกู้ภัยเกือบ 8,000 นาย ในการปฏิบัติการช่วยผู้ประสบภัยในเหอหนาน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่กำลังทหารจากศูนย์บัญชาการกลางกองทัพจีน ตำรวจและทหารกองหนุนกว่า 5,700 นาย เรือและยานพาหนะถึง 148 ลำ ทีมกู้ภัยรวม 1,800 นาย จากพื้นที่ 7 มณฑล เข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้งในเมืองเจิ้งโจ้ว เมืองไคเฟิง และเมืองลั่วหยาง ของมณฑลเหอหนาน
เมื่อคืนวันอังคาร (20 ก.ค.) ที่ผ่านมาเกิดเหตุน้ำท่วมครั้งใหญ่ของมณฑลเหอหนาน เกิดขึ้นหลังจากเผชิญพายุฝนที่ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าปริมาณน้ำฝนที่ตกมาอาจหนักมากในรอบนับพันปี โดยปริมาณน้ำฝนทำลายบันทึกสถิติทั้งรายชั่วโมงและรายวันตลอดช่วง 70 ปีมีการเก็บรวบรวมข้อมูล
แม่น้ำเหลืองซึ่งใหญ่ผ่านเมืองเอ่อล้นท่วมเมืองเจิ้งโจว เมืองเอกของมณฑลเหอหนานที่มีประชากรราว 12 ล้านคน ถนนทรุดตัว กระแสไฟฟ้าถูกตัด โรงพยาบาลสำคัญต้องไร้ไฟฟ้าใช้ พื้นที่เมืองเจิ้งโจวระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภทกลายเป็นอัมพาตเนื่องจากน้ำท่วมสูง รวมถึงการติดต่อสื่อสาร ระบบไฟฟ้าและน้ำประปา
สำนักอุตุนิยมวิทยาของจีนรายงานว่า นับตั้งแต่วันนี้ (22 ก.ค.) จะมีฝนตกลงมาซ้ำเติมทั่วเหอหนานติดต่อไปอีก 3 วัน ด้วยอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นที่ก่อตัวขึ้นจากตะวันออกของไต้หวัน และกำลังมุ่งหน้าขึ้นฝั่งจีนแผ่นดินใหญ่บริเวณมณฑลกวางตุ้ง โดยเมื่อวันพฤหัสบดีกรมอุตุนิยมวิทยาของเหอหนานได้แจ้งเตือนภัยพิบัติระดับสีแดง โดยเตือนว่าเมืองใหญ่ๆ เช่น อันหยาง เหอปี่ ซินเซียง และเจียวจั่ว จะมีปริมาณน้ำฝนสะสมเกินเกณฑ์ 100 มม. (3.9 นิ้ว) แม้ว่าปริมาณน้ำฝนดังกล่าวจะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำฝน 209 มม. ที่เจิ้งโจวบันทึกไว้ในหนึ่งชั่วโมงของวันพุธที่ผ่านมา ท่ามกลางเขื่อนและอ่างเก็บน้ำหลายแห่งที่มีระดับกักเก็บน้ำใกล้ถึงระดับอันตราย
สำนักข่าวเอพียังรายงานด้วยว่า วัดเส้าหลิน (เส้าหลินซื่อ) ซึ่งมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในด้านวิทยายุทธ์กำลังภายในจีน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเจิ้งโจว ก็ไม่รอดพ้นจากเหตุอุทกภัยที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างด้วยเช่นกัน
หลังเกิดเหตุอุทกภัยดังกล่าว ผู้ใช้งานเว่ยป๋อโซเชียลมีเดียจีน ต่างแสดงความคิดเห็นพร้อมตั้งคำถามเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของหน่วยงานท้องถิ่นเกี่ยวกับการรับมือเหตุสาธารณภัยและความปลอดภัยของระบบรถไฟฟ้าใต้ดินของเมือง ซึ่งเพิ่งถูกเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อปี 2556 แต่จากเหตุดังกล่าวพบว่ามีน้ำเข้าท่วมภายในสถานีรถไฟฟ้า รวมถึงน้ำเข้าท่วมขบวนรถไฟฟ้า ผู้โดยสารหลายรายต้องติดอยู่ภายในขบวนรถที่มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตจีนได้ตั้งคำถามต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจีนว่า เหตุใดจึงไม่มีเตือนหรือสั่งปิดระบบเดินรถไฟฟ้าใต้ดินล่วงหน้าในช่วงที่ฝนตกหนัก ซึ่งมีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วม
ขณะผู้ใช้งานชาวจีนอีกราย ได้แชร์คำแถลงของหน่วยงานท้องถิ่น พร้อมระบุว่า "เราไม่สามารถควบคุมอุทกภัยได้ แต่พวกเขา (ราชการ) ควรสั่งระงับการเดินรถไฟฟ้าเมื่อพบสัญญาณเตือนถึงอันตรายจากน้ำท่วม ทว่ายังคงมีการให้บริการอยู่"
ก่อนหน้านี้แถลงการณ์ของหน่วยงานจีนระบุว่า “จำเป็นต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน อาทิ การระงับรถไฟ การอพยพผู้โดยสาร และการปิดสถานีในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ สืบเนื่องจากพายุที่รุนแรงเกินไป” ขณะที่ Southern Weekly สื่อท้องถิ่นของจีน รายงานคำให้สัมภาษณ์ของพนักงานเดินรถไฟฟ้ารายหนึ่งที่กล่าวว่า พวกเขาพยายามให้รถไฟฟ้ายังคงให้บริการต่อไปได้ เพื่อให้ประชาชนเดินทางกลับบ้านได้ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก พร้อมยอมรับว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นน้ำท่วมขังในสถานีรถไฟฟ้า
หนังสือพิมพ์ Henan Business Daily รายงาน อ้างเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟฟ้ารายหนึ่งว่า ผู้โดยสารทุกคนได้รับการอพยพแล้ว แต่ชาวเมืองหลายคนตอบโต้ว่าไม่เป็นความจริง หลังปรากฎภาพผู้โดยสารหลายสิบคนที่ยังติดอยู่ภายในขบวนรถไฟ ชายรายหนึ่งวิดีโอคอลคุยกับภรรยาซึ่งเธอยังติดอยู่ในขบวนรถพร้อมระดับน้ำใกล้ถึงคอแล้ว
อย่างไรก็ตาม Global Times สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่ง แก้ต่างว่า "เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งที่จะป้องกันไม่ให้เจิ้งโจวถูกน้ำท่วม ในยามที่ฝนตกหนักเช่นนี้ แต่จำเป็นต้องมีความพยายามบรรเทาทุกข์มากขึ้นเพื่อลดการสูญเสียชีวิต"
ที่มา: TheGuardian , AP , SCMP