นายคาจิยามะ ฮิโรชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเมติของญี่ปุ่น (กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม) แถลงความคืบหน้ามาตรการย้ายฐานการผลิตโรงงานญี่ปุ่นออกจากประเทศจีนกลับมายังประเทศบ้านเกิดหรือประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันดำเนินการไปแล้วทั้งสิ้น 87 โครงการ
จากตัวเลขโครงการทั้งหมดในรอบแรก ซึ่งจะใช้เม็ดเงินทั้งสิ้น 70,000 ล้านเยน หรือประมาณ 20,000 ล้านบาท 30 โครงการจะย้ายฐานการผลิตไปยังเวียดนาม เมียนมา ไทย และประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ขณะที่อีก 57 โครงการจะย้ายกลับไปญี่ปุ่น
เม็ดเงินสนับสนุนในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งจากงบประมาณรัฐบาลที่นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกมาประกาศเมื่อเดือน เม.ย.ว่าจะทุ่มเงินกว่า 243,000 ล้านเยน หรือประมาณ 72,000 ล้านบาท เพื่อลดการพึ่งพาประเทศจีน
รายชื่อบริษัทที่เข้าร่วมในการย้ายฐานการผลิตครั้งนี้มีมาจากแทบทุกอุตสาหกรรมทั้งผู้ผลิตชิ้นส่วนอากาศยาน, ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์, ผู้ผลิตปุ๋ย ไปจนถึงผู้ผลิตยารักษาโรคและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง อาทิ บริษัทชาร์ป เป็นต้น
นอกจากญี่ปุ่น หลายประเทศก็มีความคิดในการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยต้นทุนการผลิตที่ยังคงต่ำอยู่ รวมไปถึงโครงสร้างพื้นฐานทั้งท่าเรือ ทางรถไฟ หรือระบบโทรคมนาคมที่รัฐบาลจีนทุ่มเงินอย่งาต่อเนื่องตลอดสองทศวรรษ จึงเป็นเงื่อนไขไม่ง่ายที่จะมีการย้ายฐานการผลิตอย่างมีนัยสำคัญ
ฮาร์เลย์ เซเยดิน ประธานหอการค้าอเมริกันในภูมิภาคจีนตอนใต้ชี้ว่า ปัจจุบันตนยังไม่พบว่ามีบริษัทไหนวางแผนที่จะย้ายฐานการผลิตจริงๆ สอดคล้องกับ จิท ลิม จากบริษัทให้คำปรึกษาอีลเอเรซ์แอนด์มาร์เซล ที่ชี้ว่าจีนยังคงให้ประโยชน์เรื่องสายการผลิตแบบที่ประเทศอื่นๆ ให้ไม่ได้
อ้างอิง; Bloomberg, Nikkei Asian Review, JT
ข่าวที่เกี่ยวข้อง;