ไม่พบผลการค้นหา
'ผกก.โจ้' ให้การปฏิเสธเจตนาฆ่า ยอมรับทำร้ายจริง หวังขยายผลยาเสพติด พ่อผู้ตาย ลั่นรับไม่ได้ลูกโดนถุงดำคลุมหัว

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เขตดุสิต ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยพร้อมเบิกตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับการ สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในคดีหมายเลขดำที่ อท180/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอลคอนเฟอร์เรนซ์ รวม 4 ข้อกล่าวหาได้แก่

1.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด 

2.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

3.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย

4.ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทําการใด หรือจํายอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นหรือผู้อื่นหรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมสิ่งนั้น อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83 , 157 , 288 , 289(5)

โดยศาลพิจารณาตามเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 64 ที่ผ่านมาบริเวณห้องทำงานชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองนครสวรรค์ จำเลยที่ 1-7 ร่วมกันใช้ถุงพลาสติกคลุมศีรษะ จิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือมาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ใช้เวลารวม 6 นาที จนเสียชีวิตตามที่ได้ปรากฏ โดยอ้างเหตุผลก่อนหน้าเพื่อเป็นการขยายผลหาแหล่งยาเสพติดไม่ได้มีเจตนาให้ถึงแก่ชีวิต ก่อนสอบคำให้การจำเลยที่ 1-7 ได้ให้การว่า

จำเลยที่ 1 พ.ต.อ.เอกธิติสรรค์ อุทธนผล (ผู้กำกับโจ้) และจำเลยที่ 2 พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง รับสารภาพข้อกล่าวหาที่ 1 , 2 , และ 4 โดยข้อกล่าวที่ 3 ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานกระทำการทารุณ ปฎิเสธ อ้างเหตุ ประสงค์เพื่อเป็นการขยายผลในคดียาเสพติดเท่านั้น โดยไม่ได้มีเจตนาทำให้ถึงแก่ชีวิต

จำเลยที่ 3 ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค ในการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างเหตุ ไม่ได้ร่วมกระทำการเกี่ยวข้องเพียงแต่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุเท่านั้น

จำเลยที่ 4 ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา รับสารภาพข้อกล่าวหาที่ 4 เพียงข้อเดียว อ้างเหตุทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา เพื่อเป็นการขยายผลในคดียาเสพติด และไม่ได้มีเจตนาทำให้ถึงแก่ชีวิต

จำเลยที่ 5 ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว จำเลยที่ 6 ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น และจำเลยที่ 7 ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว ให้การปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างเหตุ ไม่ได้เข้าร่วมการกระทำดังกล่าวอันเป็นการขืนใจ จิระพงศ์ แต่เพียงแค่อยู่ในพื้นที่ก่อเหตุ , เข้ามาหลังที่เกิดเหตุเพียง 1 นาที และจิระพงศ์ ล้มลงนอนไปแล้ว และไม่ได้มีเจตนาทำให้ถึงแก่ชีวิต

ทั้งนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางจะกำหนดนัดสืบพยานหลักฐานจำเลยที่ 1-7 ตามคำให้การอีกครั้ง ในวันที่ 19 ม.ค. 65 เวลา 09.30 น. ต่อไป

ภายหลังสิ้นสุดสอบคำให้การ ร.ต.จักรกฤณ์ กลั่นดี บิดาของจิระพงศ์ เปิดเผยแก่สื่อมวลชนว่า อัยการที่ จ.นครสวรรค์ได้แนะนำ ให้ตั้งทนายเพื่อขอเป็นโจทก์ร่วม วันนี้ทางศาลได้เมตตาให้สามารถเป็นโจทก์ร่วมได้ และจะได้ทราบข่าวสารทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนกฎหมาย เมื่อฟังคำให้การของจำเลยคิดว่าก็ได้ให้การสมเหตุสมผลทุกคน ว่าการทำงานของเขาเพื่อเป็นการขยายผล 

"คิดว่าทำงานดี แต่ก็สงสารลูก ทุกวันนี้ยังมองเห็นภาพลูกที่โดนกระทำ รับไม่ได้จริง ๆ วันจึงมารับทราบว่าจำเลยจะให้การอย่างไร ส่วนหลังฟังคำให้การแล้วนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เราก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้มากกว่านี้ ให้เป็นไปตามขั้นตอนการพิจารณาของศาลดีกว่า" ร.ต.จักรกฤณ์ กล่าว