ไม่พบผลการค้นหา
'นพดล ปัทมะ' เชื่อเหตุทางทหารที่ช่องบกจะไม่บานปลาย ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา และระหว่างนายกรัฐมนตรี ของทั้ง 2 ประเทศ แน่นปึ๊ก แนะใช้สันติวิธีเจรจาตามกรอบเอ็มโอยู 43

นายนพดล ปัทมะ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถึงกรณีที่มีเหตุการณ์ทางทหารบริเวณช่องบก ตนเชื่อว่าจะไม่มีการบานปลายเป็นความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านเพราะความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกับกัมพูชานั้นมีความแน่นแฟ้นและความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศก็แน่นปึ๊ก ไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่ดีกันมาโดยตลอด เห็นได้จากความร่วมมือทางด้านการปราบปรามอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ยาเสพติด ค้ามนุษย์และการค้าตามแนวชายแดนเป็นไปด้วยดี ทั้งสองประเทศรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ใดๆที่จะยกระดับความขัดแย้งให้มากขึ้น ส่วนการเตรียมความพร้อมตามแนวชายแดนนั้นก็เป็นเรื่องปกติแต่ไม่ใช่เป็นการยั่วยุซึ่งกันและกัน แต่เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้มั่นใจว่าจะเกิดเสถียรภาพในพื้นที่ ดังนั้นตนไม่อยากให้มีการขยายผลสร้างประเด็นดราม่าในสื่อโซเชียล ซึ่งจะมีผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนเพราะเรื่องนี้สามารถได้รับการแก้ไขโดยสันติวิธีทางการทูต 

นายนพดล กล่าวต่อว่า ตนเสนอใช้การเจรจาตามกรอบเอ็มยู 43 เรื่องการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ซึ่งมีกลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมตามเอ็มโอยูอยู่แล้วให้ทำงานอย่างเต็มที่ 

ในระหว่างนี้ ทั้งสองฝ่าย ควรใช้ความอดทน อดกลั้นเพื่อคลี่คลายสถานการณ์และให้การทูตทำงานต่อไป

“เขตแดนไทย-กัมพูชาทางบกนั้นยังมีพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์หรือเรียกว่าพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนอยู่เป็นบางจุด เสนอให้คณะ กมธ เขตแดนร่วมประชุมกันมากขึ้น และควรปักปันเขตแดนโดยคณะกรรมการทั้งสองฝ่ายต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความชัดเจนและป้องกันไม่ให้มีปัญหาในอนาคต สมัยตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศปัญหาเรื่องเขตแดนยากและซับซ้อนกว่านี้มาก ก็ยังสามารถคลี่คลายได้ตามกรอบของเอ็มโอยูและกฎหมายระหว่างประเทศ ตนเชื่อว่าท่านนายกฯแพทองธาร ชินวัตรและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะสามารถคลี่คลายปัญหานี้ต่อไป เพราะการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้านนั้นย่อมก่อให้เกิดสันติสุขแก่ทุกฝ่าย และพรรคเพื่อไทยนั้นเน้นนโยบายการเติบโตและมั่นคงไปพร้อมกับเพื่อนบ้าน และเหตุการณ์นี้จะผ่านไปด้วยได้ด้วยดี”