นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แล้วเสร็จ กรมสรรพสามิตเตรียมเสนอร่างกฎหมายการจัดตั้งกองทุนแบตเตอรี่ เพื่อเป็นแนวทางในการบังคับจัดเก็บภาษีจากผู้นำเข้า และผลิตแบตเตอรี่ โดยเฉพาะที่ใช้ในรถยนต์
โดยมีหลักการเบื้องต้นคือ หากมีการนำเข้า หรือผลิตแบตเตอรี่ ผู้ประกอบการต้องมีแนวทางบริหารจัดการแบบครบวงจรไปจนถึงปลายทางว่าจะดำเนินการต่ออย่างไรในกรณีที่แบตเตอรี่ที่หมดอายุใช้งาน เช่น การนำไปรีไซเคิล หรือกำจัด ซึ่งหากไม่มีรัฐขอเรียกเงินเข้ากองทุนเพื่อไปดำเนินการทำลายต่อ โดยเบื้องต้นจะมีทุนประเดิมจากรัฐบาล ที่เหลือจะเป็นการจัดเก็บจากการนำเข้า เพื่อนำเงินมาใช้หมุนเวียน คาดว่าระยะเริ่มต้นกองทุนต้องมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านบาท
ส่วนแนวทางการจัดเก็บภาษีเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ จะมีการเสนอเพดานการจัดเก็บให้สูงขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีการทำการตลาดในกลุ่มเบียร์เช่นเดียวกับเบียร์ปกติ ซึ่งเป็นช่องทางที่อาจทำให้กลุ่มนักดื่มหน้าใหม่เข้ามาบริโภคเบียร์มากขึ้น และเพื่อให้มีความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มกลุ่มนี้ เพราะเบียร์ไร้แอลกอฮอล์ มีการจัดเก็บภาษีอยู่ในอัตราร้อยละ 14 เท่ากับภาษีน้ำหวาน-น้ำอัดลม ขณะที่เบียร์ที่มีแอลกอฮอล์จัดเก็บภาษีที่ร้อยละ 22 โดยเบื้องต้นอัตราภาษีใหม่จะสูงกว่าภาษีน้ำหวาน แต่จะต่ำกว่าภาษีเครื่องดื่มเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :