เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลแพ่งรัชดา ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล, เสกสิทธิ์ แย้มสงวนศักดิ์ พร้อมทีมทนายจากภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เดินทางมายื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะจำเลยที่ 1 และ 2 กรณีออกข้อกำหนดและประกาศจำกัดสิทธิเสรีภาพการชุมุนม พร้อมทั้งยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินขอให้คุ้มครองชั่วคราว #ม็อบ31ตุลา 2564 ที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย

ปนัสยา กล่าวว่า การมาที่ศาลในวันนี้ ต้องการให้ศาลรับฟังพวกตนในฐานะประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมืองและการชุมนุมอย่างสงบตามที่ได้ประกาศเอาไว้อย่างชัดเจน แต่กลับถูกขัดขวางโดยกระบวนการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายมาโดยตลอด เช่น การใช้ลวดหนามหีบเพลง และตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเครื่องกีดขวางเหล่านี้ไม่ได้ถูกบัญญัติว่าสามารถนำมาใช้ได้ตามที่ปรากฏในพระราชกำหนดฉุกเฉิน พร้อมยืนยันว่า การชุมนุมของกลุ่มพวกตนทุกครั้ง ไม่เคยพบว่าเป็นต้นตอในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่อย่างใด 

ทั้งนี้ ปนัสยา ได้ตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า ในอีก 3 วัน กำลังจะเปิดประเทศแล้ว เหตุใดจึงพยายามห้ามไม่ให้มีการชุมนุมอยู่ ในเมื่อกิจกรรมต่างๆและการรวมตัวของประชาชนจะดำเนินไปตามวิถีปกติ ในวันนี้ ตนคาดหวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะมอบความยุติธรรมกับประชาชนเสียที และคาดหวังว่าการออกมายื่นคำร้องครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จ 

ในรายละเอียดของการมายื่นฟ้องในวันนี้ เป็นไปเพื่อขอให้ศาลเพิกถอน หรือสั่งให้จำเลยทั้งสองเพิกถอน ข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ฉบับที่ 15 ข้อ 3 และประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบฯ ฉบับที่ 12 โดยให้ถือว่าข้อกำหนดและประกาศดังกล่าวไม่มีผลใช้บังคับมาตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา, ให้จำเลยทั้งสองมีคำสั่งห้ามเจ้าพนักงานภายใต้บังคับบัญชาปฏิบัติการในลักษณะกีดขวางการชุมนุมในทุกรูปแบบ และให้เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและเสรีภาพของประชาชน