ไม่พบผลการค้นหา
ชาติพันธมิตรตะวันตกเดินหน้ามาตรการการคว่ำบาตรรัสเซียมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียประกาศรับรองเอกราชให้แก่ดินแดนของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน ก่อนที่จะมีการส่งกองกำลังของตนเข้าไปยังตะวันออกของยูเครน

เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเรียกวิกฤติในครั้งนี้ว่าเป็น “จุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์ของยุโรป” หลังจากที่ชาติสมาชิก G7 ให้คำสัญญาว่าพวกตนจะทำการคว่ำบาตรรัสเซียอย่างหนัก จากการตัดสินใจรุกรานยูเครนของปูติน ในขณะที่ โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเรียกว่าการโจมตีในครั้งนี้เป็น “สงครามของปูติน” และปูตินจะต้อง “ชดใช้ในราคาแพง” กับ “ความผิดพลาดอันเลวร้าย” ในครั้งนี้

ในตอนนี้ ณ บริเวณภูมิภาคยุโรปตะวันออกกำลังมีผู้ลี้ภัยจากความรุนแรงของการรุกรานยูเครนโดยรัสเซียเพิ่มขึ้น ในขณะที่ปูตินระบุว่า การส่งกองทัพของรัสเซีนเข้ามายังยูเครนเป็นไปเพื่อ “การถอนระบอบนาซี” ออกจากยูเครน โดยรัสเซียกล่าวอ้างว่า ยูเครนมีความพยายามในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนเชื้อสายรัสเซียในบริเวณดอนบาส รัสเซียจึงจำเป็นจะต้องส่ง “กองกำลังรักษาสันติภาพ” เข้าไปยังยูเครนตะวันออก

ผู้นำชาติสมาชิก G7 ต่างออกมาประณามรัสเซีย โดย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุว่า “ประธานาธิบดีปูตินได้เลือกที่จะทำสงครามที่ไต่ตรองเอาไว้ล่วงหน้า ซึ่งจะนำมาซึ่งความสูญเสียและความทุกข์ทรมานของมวลมนุษย์อย่างมหาศาล”

ในขณะที่ อัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า ปูติน “มีส่วนรับผิดชอบในการนำสงครามกลับมายังยุโรป” เช่นเดียวกันกับ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรที่ออกมาระบุว่า ปูตินได้ “เลือกหนทางที่เต็มไปด้วยความนองเลือดและการทำลายล้าง” จากการ “โจมตีที่ไร้เหตุผล”

ชาติสมาชิก G7 ที่ประกอบไปด้วย สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อิตาลี และแคนาดา ประกาศว่าจะร่วมการออกแถลงการณ์ร่วมเพื่อออกมาตรการคว่ำบาตร “ที่รุนแรงและร่วมกัน” ต่อรัสเซีย ในขณะที่หลายชาติประกาศการคว่ำบาตรทางด้านการเงินต่อรัสเซียแล้ว

ความโกลาหลมิได้เกิดเพียงแค่ในยูเครน เพราะประเทศเพื่อนบ้านของยูเครนเองต่างต้องเจอกับความสับสนวุ่นวายไปด้วย เช่น ลิทัวเนียได้เพิ่งระบุว่าจะมีการประกาศภาวะฉุกเฉิน ในขณะที่มอลโดวาประกาศว่าตนพร้อมรับผู้อพยพจำนวนกว่าหลายหมื่นคนจากยูเครนที่กำลังไหลเข้ามายังประเทศ เช่นเดียวกับโรมาเนียที่ประกาศพร้อมรับผู้ลี้ภัยอีกครึ่งล้านคน

นอกจากนี้ โปแลนด์ได้เปิดจุดรับผู้ลี้ภัยแล้ว ในขณะที่ทางการของโปแลนด์ประกาศขอให้รัสเซียหยุดการโจมตียูเครนและออกห่างจากยูเครนไป เช่นเดียวกับจอร์เจียที่เป็นคู่อริกับรัสเซียมาตั้งแต่ปี 2551 ที่ประกาศว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียจะส่งผลให้เกิด “ผลลัพธ์อันเลวร้าย” แก่ประชาคมระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขธิการสหประชาชาติได้ออกมาขอร้องให้ปูตินหยุดการโจมตี “ในนามของมวลมนุษยชาติ” ในขณะที่เกาหลีใต้ประกาศว่า ตนพร้อมเข้าร่วมกับประชาคมโลกในการประกาศการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจแก่รัสเซีย เช่นเดียวกันกับออสเตรเลียที่ระบุว่า ตนพร้อมยกระดับการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซีย

ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-europe-60507016

https://www.aljazeera.com/news/2022/2/24/world-reaction-putin-orders-military-operation-in-ukraine