ไม่พบผลการค้นหา
ศาลปกครองสั่งสำนักงาน กกต. ชดใช้เงินให้ 'ภุชงค์' อดีตเลขาฯ กกต. 2 ล้านบาท เหตุใช้หลักเกณฑ์ประเมินการทำงานไม่เป็นไปตามสัญญาจ้าง ทำการบอกเลิกจ้างไม่ชอบด้วยสัญญาจ้าง

ที่ศาลปกครอง วันนี้ (13 ส.ค.) ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชดใช้เงินให้กับนายภุชงค์ นุตราวงศ์ อดีตเลขาธิการ กกต. จากเหตุเลิกสัญญาจ้างก่อนกำหนดไม่ชอบ  จำนวน 2,010,380 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5  ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

โดยคดีดังกล่าวนายภุชงค์ ยื่นฟ้อง กกต. และสำนักงาน กกต. เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-2 หลัง กกต.ชุดที่มีนายศุภชัย สมเจริญ เป็นประธาน มีมติเลิกจ้างเป็นเลขาธิการ กกต. ก่อนครบกำหนดสัญญาจ้างด้วยเหตุผล ไม่ผ่านผลการประเมินการปฎิบัติงาน ปีงบประมาณ 2558 ซึ่งนายภุชงค์เห็นว่าเป็นการเลิกจ้างไม่ชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นธรรมต่อตนเอง จึงได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองขอให้เพิกถอนประกาศ กกต.ฉบับลงวันที่ 8 ธันวาคม 2558  ที่ให้นายภุชงค์พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการ กกต. และให้สำนักงาน กกต.ชดใช้ค่าเสียหายเกี่ยวกับการค่าจ่าง ค่าตอบแทน รวมทั้งค่าเสียหายต่อชื่อเสียงกรณีเลิกจ้างก่อนครบกำหนดสัญญา รวม 7,060,380บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

ศาลให้เหตุผล ว่า กกต.ได้กำหนดแบบประเมินการปฏิบัติงานของนายภุชงค์ ในฐานะเลขาธิการ กกต. 2 ส่วน  คือ ส่วนที่ 1 การประเมินผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติงานของนายภุชงค์ตามที่ กกต. เห็นชอบแล้ว ค่าคะแนน 70 คะแนน ส่วนที่ 2 การประเมินผลการดำเนินงาน ตามมติของ กกต. หรือตามที่ผู้ว่าจ้างหรือ กกต.มอบหมาย ค่าคะแนน 30 คะแนน รวม 100คะแนน  

ต่อมา ในปีงบประมาณ 2558 กกต. มีมติให้นายภุชงค์ปฏิบัติงานเพิ่มเติมจำนวน 9 โครงการ / กิจกรรม และดำเนินการโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยกำหนดแบบประเมินเป็น 4 หัวข้อหลัก คือ 1. การดำเนินการตามแผนปฏิบัติงานของนายภุชงค์ตามที่ กกต.ให้ความเห็นชอบแล้ว หรือตามข้อที่มีบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมคะแนนร้อยละ 30 โดยพิจารณาตามโครงการ/กิจกรรมตามแผนปฏิบัติงานปีงบประมาณ. 2558 จำนวน 10 โครงการ/กิจกรรม 

2. การดำเนินงานตามมติของ กกต. ตามที่กำหนดในบันทึกแก้ไขเพิ่มเติมสัญญา ซึ่งรวมโครงการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ค่าคะแนนร้อยละ 30  

3. การบริหารตามหลักธรรมาภิบาล โดยพิจารณาจากพฤติกรรมค่าคะแนนร้อยละ 20 และ

4. งานท้าทาย เพื่อพัฒนาองค์กร ค่าคะแนนร้อยละ 20 ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างขึ้นใหม่ แต่ปรากฎว่า การแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาจ้างดังกล่าวยังไมมีผลโดยสมบูรณ์ เนื่องจาก นายภุชงค์ ไม่เห็นด้วยกับร่างบันทึกแก้ไขสัญญาจ้าง และสงวนสิทธิไม่ยอมรับการประเมิน ดังนั้นการที่คณะอนุกรรมการเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานได้นำแบบประเมินผลการปฏิบัติงานที่มีการเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การประเมินขึ้นใหม่ในสาระสำคัญ แตกต่างจากที่กำหนดไว้ในสัญญาเดิม และเป็นการเพิ่มเติมแบบการประเมินมาใช้ประเมินผลการปฏิบัติงานนายภุชงค์ปีงบประมาณ 2558 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 มาแล้ว 6 เดือน จึงเป็นการประเมินการปฏิบัติงานที่ไม่เป็นธรรมต่อนายภุชงค์  และไม่ชอบด้วยเงื่อนไขของสัญญาจ้าง 

การที่ กกต. มีมติเลิกจ้างนายภุชงค์โดยอ้างผลการประเมินการปฏิบัติงานดังกล่าว และมีประกาศ กกต. เรื่อง ให้เลขาธิการ กกต. พ้นจากตำแหน่ง ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2558 จึงเป็นการเลิกจ้างนายภุชงค์ก่อนครบกำหนดสัญญาจ้างที่ไม่ชอบด้วยสัญญาจ้าง โดยไม่จำต้องเพิกถอนประกาศ กกต. ดังกล่าว ตามคำขอของนายภุชงค์ เนื่องจากมีผลเป็นเพียงการบอกเลิกจ้างเป็นหนังสือ