กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่วิดีโอ ที่เรียกร้องให้ชาวรัสเซียเลิกทำงานภาคเอกชนพลเรือน เพื่อสมัครเข้าร่วมงานกับกองทัพ โดยโฆษณาดังกล่าวแสดงภาพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในซูเปอร์มาร์เก็ต ครูสอนออกกำลังกาย และคนขับแท็กซี่ โดยตัวแสดงทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะไม่แยแสกับชีวิตพลเรือน และพบกับความสมหวังหลังจากเข้าร่วมกองทัพ นอกจากนี้ ในโฆษณาดังกล่าวยังสัญญาว่าผู้สมัครเข้าร่วมกองทัพ จะได้รับเงินเดือนอย่างน้อย 204,000 รูเบิล (ประมาณ 86,000 บาท) ซึ่งเป็นเงินเดือนมากกว่า 4 เท่าของค่าเฉลี่ยในรัสเซีย
หลังจากวิดีโอดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ออกมาจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ผู้สร้างโฆษณาชวนเชื่อยูเครนรีบออกวิดีโอต่อต้านโฆษณาดังกล่าว โดยพวกเขาสร้างเวอร์ชันโฆษณาที่ถูกแก้ไข ด้วยการเปลี่ยนข้อความในเนื้อหา โดยตัวแสดงในโฆษณาได้ออกมาต่อต้านการฆ่าเด็กและการตัดศีรษะ และ "ไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบต่ออาชญากรรมสงครามของปูติน"
ในขณะที่โฆษณาเวอร์ชันภาษารัสเซียในการส่งเสริมให้ผู้ชายสมัครเข้าร่วมกองทัพ ยังระบุว่าอีกเพราะพวกเขา "เป็นผู้ชาย" จึงควรเข้าร่วมกองทัพ วิดีโอของยูเครนได้เปลี่ยนคำดังกล่าวเป็น "เป็นมนุษย์" เพื่อสะท้อนในอีกนัยหนึ่งว่าอย่ากระทำการทารุณโหดร้ายต่อมนุษย์ด้วยกัน
โฆษณาดังกล่าวของรัสเซียเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์ที่ขยายวงกว้างขึ้น รวมถึงการได้เวลาออกอากาศหลายช่วงตอนทางโทรทัศน์ของรัฐ และโฆษณาดังกล่าวยังปรากฏบนสื่ออื่นๆ อีกด้วย นอกจากนี้ จากการวิจัยโดยเว็บไซต์อิสระ Novaya Gazeta บน VKontakte โซเชียลเน็ตเวิร์กยอดนิยมของรัสเซีย มีจำนวนโฆษณาของกองทัพเพิ่มขึ้นถึง 7 เท่า
การรณรงค์ทางสื่อได้ดำเนินการควบคู่ไปกับการโฆษณาของกองทัพตามท้องถนนของรัสเซีย “เป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าแรงผลักดันในการเกณฑ์ทหารนี้แพร่หลายไปแค่ไหน” ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวรัสเซียรายหนึ่งกล่าว "มันเข้ายึดครองมอสโกโดยสมบูรณ์ และคุณแทบจะเดินไปไม่ถึง 2 นาทีโดยไม่เห็นโปสเตอร์อีกแผ่น"
แรงผลักดันในการเกณฑ์ทหารอาจได้รับแรงกระตุ้น จากความต้องการทหารใหม่อย่างสิ้นหวังของกองทัพรัสเซีย ทั้งนี้ หลังจากการสู้รบในยูเครนมานานกว่า 1 ปี จากเอกสารของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่รั่วไหลออกมามีการประเมินว่า ความสูญเสียของรัสเซียในสงครามยูเครนมีอยู่ที่ระหว่าง 189,500 ถึง 223,000 ราย โดยมีทหารเสียชีวิต 35,500 ถึง 43,000 ราย
ในเดือน ก.ย. 2565 วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ประกาศ "การระดมพลบางส่วน" อันเป็นความพยายามคัดเลือกทหารครั้งใหม่ โดยไม่คำนึงว่าประชาชนชาวรัสเซียต้องการเข้าร่วมกองทัพหรือไม่ ยิ่งไปกว่านั้น การระดมพลดังกล่าวยังทำให้คะแนนความนิยมต่อตัวปูตินลดลง โดยในครั้งนี้ ทางการรัสเซียมีพยายามอย่างไม่ลดละ ที่จะหลีกเลี่ยงการประกาศอย่างเปิดเผยถึงการระดมพลทหารเพิ่มอีก
“ไม่มีการพูดคุยกันในรัฐบาลเครมลิน เกี่ยวกับการระดมพลระลอกใหม่” ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของปูตินกล่าวเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังจากผู้สื่อข่าวสอบถามต่อเปสคอฟ เกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่ามีนักศึกษาในกรุงมอสโก เริ่มได้รับเอกสารเรียกตัวเป็นกำลังพลแล้ว นนอกจากนี้ ในอีกหนทางอื่นๆ เพื่อความพยายามในการเพิ่มจำนวนทหารในกองทัพที่รัฐบาลรัสเซียใช้ ยังรวมถึงการอนุญาตให้บริษัททหารเอกชนอย่างวากเนอร์ เปิดรับสมัครทหารรับจ้างจากเรือนจำ
นอกจากนี้ ในเดือน เม.ย. 2566 รัฐสภารัสเซียยังผ่านกฎหมาย ที่ส่งผลให้การรับสมัครสมาชิกกองทัพใหม่ทำได้ง่ายขึ้น และทำให้การหนีหรือหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารทำได้ยากขึ้น ด้วยการอนุมัติกฎหมายเพื่อเริ่มให้บริการเอกสารการเรียกตัวทางออนไลน์
ภายใต้กฤษฎีกาที่ออกโดยปูตินในเดือน ก.ย. 2565 ผู้ที่สมัครเข้าร่วมกองทัพรัสเซีย จะไม่สามารถออกจากกองทัพได้จนกว่าสงคราม หรือที่รัสเซียเรียกว่าเป็น "ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ" ในรัสเซียจะสิ้นสุดลงเท่านั้น
ที่มา: