เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. 2565 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือโทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) ระบุผ่านรายการ CareTalk x CareClubHouse ภายใต้หัวข้อ 'ราชการไทย ทำดีก็ได้ ทำไวก็เป็น' โดย โทนี่ ระบุถึงการปฏิรูปราชการว่า ถ้าเราเคาะสนิมไม่ได้ ทำงานให้เหมือนภาคเอกชนไม่ได้ก็แก้ปัญหาไม่ทันกิน ตอนที่ตนมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตอนนั้นประเทศติดหล่มเศรษฐกิจและล้าสมัย มาเห็นวันนี้ยิ่งล้าสมัยกว่าวันนั้น วันนั้นยังเป็นเรื่องเทคโนโลยี แต่ตอนนี้ดิจิทัล ทำให้ตนต้องนำระบบบริหารราชการที่รวดเร็วทันใจมาบริการประชาชน ทำให้มีการสื่อสารพูดกับข้าราชการได้เข้าใจและร่วมมือมากันทำ ให้มีจิตสำนึกมาบริการ แต่ข้าราชการได้ถูกใช้ให้เป็นนายประชาชนมานาน วันนั้นต้องเปลี่ยนทัศนคติมาเป็นผู้ให้บริการประชาชน ก็จูงใจประชาชน ทั้งหมดเรื่องข้าราชการจะทำได้ดีหรือเฉื่อยชา ฉับไว อยู่ที่ภาวะผู้นำ
"อย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ไปทำที่ กทม.ก็เห็นได้ชัด เขาพร้อมจะร่วมมือ ข้าราชการไม่ได้บอกจะขี้เกียจ ในเมื่อคนสั่งการสั่งไม่ถูก ไม่รู้จะเดินไปทางไหน ระบบราชการถ้าผู้ใหญ่บอกชัดให้แซงไปเลย ข้าราชการก็จะไป ข้าราชการส่วนใหญ่การศึกษาดีๆทั้งนั้น" โทนี่ กล่าว
โทนี่ กล่าวว่า "วันนี้ระบบราชการทำให้เข้มแข็ง พอปฏิวัติ มาปุ๊บ ความเข้มแข็งอยู่ในค่ายทหารหมด"
โทนี่ เชื่อว่าระบบราชการในยุุค ชัชชาติจะดีขึ้นแน่นอน ไม่ว่าข้าราชการ กทม.จะทำไม่เป็น แต่สำคัญว่างานตรงนี้จะทำหรือไม่ทำ จะทำ 50% หรืออีก 50%เป็นเงินทอน การที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติทำงานแบบนี้ขยันมีประสิทธิภาพโปร่งใส ทำให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ไปด้วย เหมือนตอนตนเป็นนายกฯ ได้บรรยาย ซักถามให้ทุกคนได้แนะนำมีการถ่ายทอดสดช่อง 11 ตลอดเวลา ทำให้คนได้เรียนรู้วิธีการทำงานเรื่องใหม่ๆ ที่ ชัชชาติ ไลฟ์สดทำให้ประชาชนได้เรียนรู้ร่วมกันไป
"ผู้นำที่ดีต้องเป็นผู้เล่าเรื่องที่ดี ถ้าไม่สามารถเล่าให้คนเข้าใจก็ตามไม่ถูก ผมเล่าให้ข้าราชการฟังไม่พอ ผมเอารายการนายกฯ พบประชาชนไปเล่าให้ประชาชนฟัง แล้วข้าราชการชั้นข้างล่างก็ถือโอกาสฟังจะได้รู้เราคิดอะไร เดินไปทางไหนเขาก็ให้ความร่วมมือได้เต็มที่ อย่าลืมเมื่อร่วมมือกับเราทำงานกับเรา เราต้องดูแลเขาอย่างไรด้วย ผมก็คิดระบบโบนัสขึ้นมาให้โบนัสข้าราชการ แล้วก็เขาร้องเรียนการบริการไม่ดี ผมก็ตั้ง One Stop Service ตอนนั้นทำงานกันหนัก วันเสาร์-อาทิตย์ ยังต้องทำงาน"
"พรรคไทยรักไทย จนมาถึงพรรคเพื่อไทยวันนี้เป็นนักแก้ปัญหา ไม่ใช่นักสร้างปัญหา เมื่อเป็นนักแก้ปัญหาเราต้องเอาคนเก่งๆ มาใช้มาทำ คนที่ทำเป็นมาทำ พอเราพ้นไป คนเหล่านี้ใกล้ชิดเราก็นำคนเหล่านี้เข้ากรุ เอาคนโง่มาใช้ทำให้มีประสิทธิภาพห่วย" โทนี่ ย้ำ
โทนี่ ระบุว่า "ผมเชื่อว่าเลือกตั้งคราวหน้าประชาชนจะเป็นคนกำหนดเอง ต่อให้ซื้อเยอะๆ การคอร์รัปชันสูงมากในรัฐบาลลนี้ ไม่แคร์ประชาชน แล้วประชาชนจะสอนบทเรียนให้เงินมากูรับ เพราะเงินเหล่านี้ภาษีประชาชน เอาเงินมารับไปเลย แต่ตอนเลือกต้องดูประโยชน์ของประเทศ อย่างเลือกตั้ง กทม. ทาง ส.ก.ซื้อกันเยอะมาก ทำให้ประชาชนขอบคุณมาพรรคไหนรับหมด"
ในช่วงท้ายรายการมีการถามว่า หน่วยราชการ คือ ทหารจะนับรวมกับการปฏิรูปราชการด้วยหรือไม่ โทนี่บอกว่า ความจริงต้องนับ เผลอก็ตอด ทหารเพิ่มงบฯ เพิ่มกำลังพล เราไม่ควรนำอาวุธมาสั่งสมไว้ไม่เกิดประโยชน์
"ผมสมัยอยู่ชินคอร์ปไปยุโรปจะกลับมาถึงตอนเช้าจะไม่เข้าบ้านจะกลับมาอาบน้ำที่ทำงานแล้วเรียกประชุมเลย เดี๋ยวนี้บริษัทเป็นอินทัช และเอไอเอส วัฒนธรรมยังเหมือนเดิม วัฒนธรรมมาจากผู้นำ เปลี่ยนผู้นำก็เป็นวัฒนธรรมได้ แต่ผู้นำวันนี้เป็นหัวหน้าราชการมาก่อน ก็เห็นเป็นปกติต้องเช้าชามเย็นชามไม่เห็นต้องรีบเลย สบายๆ รถก็ไม่ติด วันนี้อยู่ที่ผู้นำจะเปลี่ยนวัฒนธรรมระบบราชการ สมัยผมอยู่ระบบข้าราชการฟิตหมด ตอนนี้ชัชชาติเป็นผู้ว่าฯ กทม. ทำให้ข้าราชการฟิตตาม เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องปรับตัวอยู่แล้ว" โทนี่ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีคำถามว่า ลุงสร้างหนี้ไว้เยอะมาก ถ้ามีการเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนขั้วการเมือง หนี้ต่างๆจะลดลงได้หรือไม่ โทนี่ กล่าวว่า ถ้าเป็นตัวเลขไม่ลด แต่ถ้าเป็นเปอร์เซนต์ต่อจีดีพีลด แต่ตอนนี้ติดหนี้ภาคครัวเรือน ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ ทำให้ธุรกิจไปยาก วันนี้ต้องเร่งหาเงินเข้าประเทศ โดยเฉพาะการท่องเที่ยว ต้องรีบเปิดการท่องเที่ยว ขจัดอุปสรรคทั้งหลาย เพราะทั้งหลายประเทศเลิกไปนานแล้ว เราก็อะไรไม่รู้ ตนเรื่องสนามบิน วันก่อนก็ส่งรูปมาคิวยาว 3 ชั่วโมง คิดไม่ถึงการท่องเที่ยวจะบูมเร็วขนาดนี้
วันนี้ท่องเที่ยวต้องเอาจริงเอาจัง ไม่เช่นนั้นไม่ฟื้นสักที ประเทศนี้ขับเคลื่อนโดยไม่มียุทธศาสตร์ ทำให้ไม่ไหน เมื่อไม่ไปไหนก็จะถอย ตนเสียดาย แต่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ตนมั่นใจมีแนวทางแต่จะไม่พูดเร็ว เพราะจะโดนลอกไปหมด
ส่วนการจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนั้น โทนี่ กล่าวว่า วิธีของรัฐบาลชักหน้าไม่ถึงหลังคือรีดเลือดกับปู และยังหนี้กับคอร์รัปชันอีก วันนี้ใครไปรังวัดที่ดินต้องจ่ายก่อน 3,000 บาท แต่คนรังวัดได้เพียง 1,000 บาท อย่างนี้ฉิบหายหมด หลักของตน ยามที่ประเทศย่ำแย่ รัฐต้องอดทนให้ประชาชนและภาคเอกชนอยู่ได้ เดี๋ยวคนเหล่านี้กลับมาเสียภาษี ถ้ารัฐทนไม่ได้ไปรีดภาษีก่อนจะพัง แล้วรัฐจะบริหารเงินอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นทหาร แล้วมาเป็นนายกฯ คงไม่เข้าใจวิธีการบริหารเงิน ถ้าเป็นตนอยู่จะเรียกปลัดกระทรวง จะเรียกเสาหลักเศรษฐกิจ จะเรียกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒน์ เศรษฐกิจการคลังมาคุย เพื่อไม่ให้เป็นภาระประชาชน วันนี้ต้องเลิกรีดเลือดกับปู รัฐบาลต้องหมุนเงินเก่งกว่านี้ ไม่ใช่ถึงเวลากู้แล้วนำมาแจกแล้วไม่มีปัญหาสร้างเศรษฐกิจ แล้วไปคอร์รัปชัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง