พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ยอมรับว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้สูตรใดการคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ เนื่องจากกรรมการ กกต.ยังไม่มีมติในเรื่องนี้ โดยจะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ หลังมีกระแสเรียกร้องให้ กกต.พิจารณาให้เกิดความชัดเจน ซึ่งการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ มีบัญญัติไว้อยู่แล้วในรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. แต่จะต้องไปมีต้นร่างและเจตนารมณ์ของกฎหมายด้วย โดย กกต.จะมีการพูดคุยกับกรรมการร่างรัฐธรรมนูญและสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อรวบรวมและศึกษารายละเอียด ก่อนที่จะมีคำตอบให้กับสังคม ซึ่งปัจจุบัน กกต.ยังไม่ได้คำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ
เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการคำนวณทางคณิตศาสตร์ที่นำมาเขียนเป็นกฎหมาย ซึ่งตามปกติการเขียนกฎหมายจะต้องมีต้นแบบว่ามีต้นแบบมาอย่างไร การตีความต้องเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองระบุว่า กกต. ต้องยึดตามมาตรา 128 ในพรป.เลือกตั้ง ส.ส.นั้น เลขาธิการ กกต.บอกว่า อยู่ที่ดุลพินิจของกรรมการ กกต. เพราะกฎหมายมีเจตนารมณ์ของกฎหมายอยู่แล้ว ซึ่งกกต.ไม่ได้กดดันในเรื่องนี้
ส่วนการล่ารายชื่อถอดถอน กกต. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ เพราะที่ผ่านมาได้ชี้แจงไปทุกอย่างแล้ว โดยสิ่งที่สังคมสงสัย กกต.ได้ชี้แจงทั้งก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง ตั้งแต่กระบวนการคัดแยกบัตรที่เปิดให้สื่อมวลชนเข้ารับชม ส่วนหลังเลือกตั้งเมื่อมีปัญหา กกต.สามารถตอบคำถามและชี้แจงได้ แต่ยอมรับว่ามีบางเรื่องที่ชี้แจงไม่ทัน เพราะมีจำนวนมาก จึงใช้วิธีการออกเอกสารข่าวชี้แจงแทน โดยขอให้สังคมรับฟังเหตุผลจาก กกต.ด้วย
ส่วนจะเป็นการดิสเครดิต กกต.หรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องของเหตุและผล เพราะสังคมประชาธิปไตยต้องมีเหตุผล
ปัดข่าวตั้งธงให้ใบแดง ชี้จะดำเนินการได้ต้องมีพยานหลักฐาน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยืนยันว่า กกต.ไม่ได้ตั้งธงว่าจะให้ใบแดงกับผู้สมัคร ส.ส.พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง ตามที่เกิดเป็นกระแสข่าวอยู่ในขณะนี้ โดยคณะอนุกรรมการวินิจฉัยคำร้องและปัญหาหรือข้อโต้แย้ง จะทำหน้าที่กลั่นกรองสำนวน ก่อนมีความเห็นส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อพิจารณาว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ การตัดสิทธิ์รับสมัครกับผู้สมัครรายใด จะให้ใบแดงหรือจะส่งศาลวินิจฉัย ซึ่งต้องเป็นไปตามเนื้อหาและพยานหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในสำนวน
"แต่ละสำนวนคดี จะต้องดำเนินการด้วยความรวดเร็ว โดยขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนมายัง กกต. 264 เรื่อง หากเรื่องใดมีมูลจะสั่งรับคำร้องเป็นเรื่องร้องคัดค้าน การดำเนินการในเรื่องใดจะอยู่ที่เนื้อหาและพยานหลักฐานในสำนวนเป็นสำคัญ" พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าว