ไม่พบผลการค้นหา
"ชลิตา บัณฑุวงศ์" ยืนยันการนำเสนอของตัวเองเป็นการใช้เสรีภาพทางความคิดที่ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญ ชี้การแจ้งความของ กอ.รมน.เป็นการบิดเบือนการใช้กฎหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัว

ชลิตา บัณฑุวงศ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า การนำเสนอของตนในเวทีที่ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2562 ที่ผ่านมา เป็นการใช้เสรีภาพทางความคิดที่ได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญ ในการอภิปรายตนได้ปูพื้นให้เห็นถึงความเป็นมาและลักษณะของสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเสนอว่าการมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยและมาจากประชาชนคือ ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหาชายแดนใต้ได้ พร้อมทั้งเสนอให้ใช้กระบวนการในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญใหม่เป็นพื้นที่ให้ประชาชนได้อภิปรายถึงบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาชายแดนใต้ 

อนึ่ง การเสนอให้มีการอภิปรายบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญโดยสันติวิธีเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญและไม่เข้าลักษณะองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 116 ในประมวลกฎหมายอาญา

ดังนั้น การแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดต่อการแสดงความคิดเห็นนี้โดย กอ.รมน. จึงเป็นการบิดเบือนการใช้กฎหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัวหรือความยุ่งยากให้กับผู้ถูกกล่าวหา เป็นการใช้การฟ้องคดีเพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น (SLAPP) ทำให้ประชาชนทั่วไปไม่กล้าที่จะพูดคุยอภิปรายเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้

ฉะนั้น พวกเราจะต้องไม่หลงประเด็นไปกับวิวาทะ "การฟ้องเหมาเข่ง/ฟ้องเหมารวม" ทั้งนี้ แม้จะเป็นหลักการที่ถูกต้องที่ว่าผู้พูดย่อมต้องรับผิดชอบในคำพูดของตนเอง แต่นี่ไม่ใช้สาระสำคัญของเรื่องนี้ ประเด็นหลักของเรื่องนี้ก็คือว่า การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติต่อรัฐธรรมนูญไม่ว่าจะในประเด็นใดไม่ใช่ความผิด ไม่ใช่อาชญากรรม และไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่สมควรจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจากการแสดงความคิดเห็นนี้ 

อย่างไรก็ดี ตนไม่เคยกังวลใจเลยแม้แต่น้อยในการที่จะถูกแจ้งความดำเนินคดีเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะคดีใด ด้วยข้อหาใด (และจะแอบโล่งใจเสียด้วยซ้ำหากมันเป็นเช่นนั้น) ตนพร้อมเต็มที่ในการต่อสู้คดีเพื่อยืนยันถึงหลักการ ตอนนี้ก็เริ่มเตรียมข้อมูลต่างๆ เตรียมหานักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ สังคมวิทยา มานุษยวิทยา รัฐศาสตร์ นักสิทธิมนุษยชน ฯลฯ ที่จะมาเป็นพยานให้การ และตนจะทำให้กระบวนการดำเนินคดีต่อตนเองเป็นการเปิดพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเรื่องรัฐธรรมนูญและปัญหาชายแดนใต้อีกทางหนึ่ง 

หลายวันที่ผ่านมา ตนรู้สึกชื่นชมและศรัทธาต่อหลายๆ ท่านที่ถูก กอ.รมน. ฟ้องร้องดำเนินคดีด้วยกัน พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวต่อการข่มขู่แม้แต่น้อย ผู้อาวุโสหลายท่านยืนยันอย่างกล้าหาญ หนักแน่น และสง่างามต่อหลักการและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น นอกจากนั้นก็ยังรู้สึกดีใจที่มีหลายๆ คน/กลุ่ม/องค์กร เริ่มออกมานำเสนอข้อมูลและความเห็นเกี่ยวกับมาตรา 1 มีการรวบรวมงานทางวิชาการมาเผยแพร่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ การพูดถึง การอภิปรายแลกเปลี่ยน และการให้ความเห็นเกี่ยวกับมาตรา 1 เคยเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมไทย และเราจะต้องช่วยกันทำให้ความปกติธรรมดานี้ดำรงอยู่ต่อใปให้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง