โมฮามุดเอาชนะประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่าง โมฮัมเหม็ด อับดุลลาฮี ฟาร์มาโจ ผู้ที่ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2560 ทั้งนี้ คูหาเลือกตั้งเปิดให้แค่สมาชิกรัฐสภาจำนวน 328 คนเท่านั้นที่สามารถลงคะแนนเสียงได้ จากเหตุผลความกังวลด้านความปลอดภัยในการจัดเลือกตั้งใหญ่ทั่วไป ทั้งนี้ มีสมาชิกรัฐสภาเพียงคนเดียวที่ไม่ได้ออกคะแนนเสียงเลือกตั้ง
โมฮามุดชนะการเลือกตั้งและคว้าเก้าอี้ประธานาธิบดีมาจากฟาร์มาโจด้วยคะแนนเสียง 214 คะแนน ในขณะที่ฟาร์มาโจได้คะแนนเสียงเพียงแค่ 110 คะแนน ทั้งนี้ รายงานเปิดเผยว่ามีสมาชิกรัฐสภาจำนวน 3 คนที่ทำบัตรเสีย สถานการณ์ที่ไม่ปกติของโซมาเลียเกิดขึ้นจากปัญหาด้านความปลอดภัยของประเทศล้มเหลวแห่งนี้ รวมถึงปัญหาการขาดความรับผิดชอบตามระบอบประชาธิปไตย
โมฮามุดที่เคยเป็นประธานาธิบดีของโซมาเลียระหว่างปี 2555 ถึง 2560 กลับมาชนะฟาร์มาโจที่เคยเอาชนะตนไปในการเลือกตั้งรอบก่อน และขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนใหม่คนเดิมของประเทศอีกครั้ง ทั้งนี้ โซมาเลียมีการเลือกตั้งที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดมาสามรอบ แต่กลับถูกเลื่อนออกไปเกือบ 15 เดือน เนื่องจากปัญหาสู้รบกันกลางประเทศ และปัญหาด้านความมั่นคงของโซมาเลีย
โมฮามุดทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีโซมาเลียในทันที หลังจากมีการประกาศผลการลงคะแนนครั้งสุดท้าย ท่ามกลางเสียงเชียร์และการยิงปืนขึ้นฟ้าจากกลุ่มผู้ให้การสนับสนุน ส่งผลให้โมฮามุดได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของโซมาเลียไปอีก 4 ปีข้างหน้านี้
การลงคะแนนเสียงโดยสมาชิกรัฐสภาโซมาเลียเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) ถูกจัดขึ้นที่โรงจอดเครื่องบินในป้อมปราการของเมืองหลวงโซมาเลียอย่างกรุงโมกาดิชู มีรายงานเสียงระเบิดในบริเวณใกล้เคียงกับคูหาลงคะแนนเสียง อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าไม่มีรายงานพบผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด
โมฮามุดจะขึ้นมาบริหารโซมาเลียที่กำลังเผชิญหน้ากับความขัดแย้งทางการเมือง และการรับมือกับผลกระทบของภัยแล้งที่รุนแรง ทั้งนี้ สหประชาชาติคาดการณ์ว่ามีชาวโซมาเลียอย่างน้อย 3.5 ล้านรายที่เสี่ยงต่อภาวะอดอยากรุนแรง รัฐบาลโซมาเลียยังกำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มอัล-ชาบับ และกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งยังครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศเอาไว้ และทำการโจมตีกรุงโมกาดิชูอยู่บ่อยครั้ง โซมาเลียยังได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อ ทั้งด้านอาหารและเชื้อเพลิงที่เกิดจากสงครามในยูเครนด้วย
รัฐบาลโซมาเลียได้รับการสนับสนุนจากสหภาพแอฟริกา และสหประชาชาติในการต่อสู้กับกลุ่มอัล-ชาบับ ด้วยกองกำลังทหารจำนวน 18,000 นาย ปัญหาความไม่มั่นคงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้โซมาเลียไม่สามารถจัดการเลือกตั้งโดยตรงได้ โดยโซมาเลียมีการจัดการเลือกตั้งแบบหนึ่งคนหนึ่งเสียงล่าสุดเมื่อปี 2512 และไม่มีอีกเลยนับแต่นั้นเป็นต้นมา
การลงคะแนนล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากการทำรัฐประหาร การปกครองด้วยระบอบเผด็จการ และความขัดแย้งกับกลุ่มติดอาวุธและกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง การจัดการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นเพียงครั้งที่สามที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีโซมาเลียโดยอ้อมสามารถจัดขึ้นได้ในโซมาเลียเอง โดยก่อนหน้านี้มีการจัดการเลือกตั้งของโซมาเลียในเคนยาและจิบูตี ประเทศที่อยู่ใกล้เคียงกัน
การลงคะแนนเสียงในครั้งนี้จะถูกจัดขึ้นเมื่อปีก่อน หลังจากการคบวาระของการเป็นประธานาธิบดีของฟาร์มาโจมาถึง แต่จากปัญหาความมั่นคงของโซมาเลียทำให้การเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไป โดยประธานาธิบดียังคงอยู่ในอำนาจ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีคนใหม่นั้น ได้รับเลือกจากผู้แทนที่ได้รับการเสนอชื่อโดยกลุ่มที่มีอำนาจของโซมาเลีย โดยการนับคะแนนเสียงเกิดความล่าช้าหลายชั่วโมง ทั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งก่อนหน้ามีการกล่าวหาว่ามีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงขึ้น
ที่มา: