แอปเปิลกลายเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์สัญชาติอเมริกันรายแรกที่มีมูลค่าตลาดทะลุ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 62 ล้านล้านบาท ความสำเร็จครั้งใหม่ที่ตอกย้ำการเป็นผู้เล่นรายใหญ่ของโลก
เมื่อวันพุธ (19 ส.ค.) ที่ผ่านมา หุ้นของแอปเปิลซื้อขายด้วยมูลค่าที่เพิ่มขึ้นราว 1.4% ไปแตะราคา 468.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ / หุ้น หรือประมาณ 1.47 หมื่นล้านบาท ก่อนจะปิดวันที่ราคา 462.83 ดอลลาร์สหรัฐฯ / หุ้น หรือประมาณ 1.45 หมื่นล้านบาท
ตั้งแต่ 23 มิ.ย. เป็นต้นมา ราคาหุ้นของแอปเปิลพุ่งสูงขึ้นกว่า 2 เท่า ปัจจัยส่งเสริมสำคัญจากความต้องการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทต่างๆ ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่หลายฝ่ายยังคงต้องทำงานจากที่พักตนเอง โดยเป็นทิศทางที่สอดคล้องกันทั้งหมดสำหรับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก
ท่ามกลางโควิด-19 ยอดขายของบริษัทในไตรมาส 2/2563 ยังเพิ่มสูงขึ้นถึง 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า เกือบขึ้นไปแตะตัวเลข 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.8 ล้านล้านบาท เกินกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ก่อนหน้านี้ ทิม คุก ซีอีโอคนปัจจุบันของแอปเปิล พาบริษัทมีมูลค่าทางตลาดทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 31 ล้านล้านบาท ได้เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2561 ทั้งยังพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่องว่าสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำที่เก่งกาจได้ไม่แพ้ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอผู้ล่วงลับอย่าง สตีฟ จ็อบส์
นิค เกียคูวมาคิส ประธาน New England Investment & Retirement Group ชี้ว่า สิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับแอปเปิล คือแม้จะเป็นบริษัทที่ใหญ่มาก แต่ก็ยังเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่และยังคงเติบโตได้อย่างดีเยี่ยม
ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า ภายในระยะเวลาไม่นาน ด้วยการเติบโตของการค้าออนไลน์ บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ คงตามเข้าไปอยู่ในกลุ่ม 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้เช่นเดียวกัน
ปัจจุบัน ไมโครซอฟต์ มีมูลค่าทางตลาดอยู่ที่ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 50 ล้านล้านบาท, อัลฟาเบต หรือบริษัทแม่ของกูเกิล มีมูลค่าทางตลาดอยู่ประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 31 ล้านล้านบาท และเฟซบุ๊ก ที่มีมูลค่าทางการตลาดราว 7.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 23 ล้านล้านบาท