'ฝ่ายความมั่นคง' จับตา 'อนาคตใหม่' ผุดแผนล้าง 'มรดก คสช.'

การเปิดตัวของ ‘พรรคอนาคตใหม่’ ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยข้อเสนอที่ ‘แทงใจ’ คสช. และ ‘โดนใจ’ คนต่อต้าน คสช. ตั้งแต่การประกาศจุดยืนของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ที่ขึ้นแท่นเป็น ‘หัวหน้าพรรค – เลขาธิการพรรค’ เต็มตัวเรียบร้อยแล้ว

หลังจัดประชุมจัดตั้งพรรค เมื่อวันที่ 27พ.ค.ที่ผ่านมา ยังคงย้ำถึง ‘จุดยืน’ คือ ‘ต่อต้านคสช.’ และมีแนวคิดถึงขั้น ‘ล้างมรดก’ คสช.เลยทีเดียว

‘มรดก’ ที่ว่านี้คือ ‘รัฐธรรมนูญ ปี 2560’ นั่นเอง ซึ่ง ‘ธนาธร’ ย้ำว่า ‘ต้องฉีกเท่านั้น’ เพราะวางกลไก ‘การสืบทอดอำนาจ’ ของ คสช. ไว้อย่างแยบยล โดยเฉพาะการเปิดช่องให้มี ‘นายกฯคนนอก’ และ ‘ส.ว.แต่งตั้ง’ กลไกการแก้ไข รธน. ที่ทำได้ยากด้วย

แต่ทั้ง ‘ปิยบุตร – ธนาธร’ มองไปถึง ‘ปมใหญ่’ ของ มรดก คสช. คือ มาตรา 279 ในรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เพื่อยกเลิกคำสั่ง คสช.ทั้งหมด ไม่ให้มีผลผูกพันไปยังอนาคต ไม่เช่นนั้นประเทศจะมีรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ คือ รัฐธรรมนูญ ปี 2560 และ คำสั่ง คสช.นั่นเอง พร้อมเสนอให้ ‘นิรโทษกรรม’ นักโทษคดีการเมืองในยุคคสช.ด้วย

“รัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่มีแก้ไข แก้ไม่ได้ ฉีกเลย ล้ม” นายธนาธร กล่าว

แน่นอนว่าการพูดคำว่า ‘ฉีก’ สะเทือนไปทุกหย่อมหญ้า เพราะอาจเข้าข่ายขัด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 ฐานล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งจะเข้าข่ายการ ‘ยุบพรรค’ ได้ด้วย หาก กกต. ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แม้ กกต. จะออกมาระบุแล้วว่าไม่ผิดก็ตาม

แต่ก็ทำให้มือกฎหมายคสช. อย่าง ‘วิษณุ เครืองาม’ ต้องออกมาเบรกความคิด ‘พรรคอนาคตใหม่’ ว่า “คำพูดที่ว่าฉีกทิ้ง ขีดเส้นใต้ไว้หน่อย เพราะรุนแรง และจะทำให้เป็นปัญหาได้ ในยามนี้อย่าไปพูดอะไรให้มันเป็นปัญหา พยายามพูดให้อยู่ในร่องในรอยดีที่สุด ใครพูดอะไร ทุกคนต้องรับผิดชอบตัวเอง”

ส่วนการเสนอ ‘นิรโทษกรรม’คดีในยุค คสช. หากมีอำนาจในมือนั้น นายวิษณุ มองว่า “ไม่น่าจะผิดอะไร เพราะเป็นการแสดงเจตนารมณ์ ไม่ถึงขั้นประกาศนโยบายพรรค เพราะนโยบายพรรคต้องผ่านที่ประชุมพรรคเสียก่อน”

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ก็ติดตามความ ‘เคลื่อนไหว’ ของแต่ละพรรคเช่นกัน พร้อมโต้ข้อเสนอของ ‘พรรคอนาคตใหม่’ ในวันประชุมจัดตั้งพรรคด้วย ซึ่งการปราศรัยบนเวทีก็มีการโจมตีรัฐบาลและคสช.อยู่ตลอด ตาม ‘จุดยืน’ ของพรรคที่ ‘ยืนตรงข้าม’ คสช. มาแต่ต้น

“จะทำอะไรขอให้ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ อย่าเอากฎหมายว่าเป็นอุปสรรค เพราะกฎหมายมีไว้ให้เกิดความเป็นธรรม และทุกพรรคก็ไม่ได้ออกมาพูดจาให้ใครเสียหาย ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการประชุมพรรค การจัดหาสมาชิกพรรค แต่การที่จะมาติติงให้ร้ายอะไรต่างๆ มันสมควรหรือไม่ ก็ต้องไปดูในประเด็นข้อกฎหมาย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ทำให้ ‘พรรคอนาคตใหม่’ ระส่ำระส่ายไม่น้อย

เพราะอย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้พรรคเพื่อไทย ได้จัดแถลงข่าว 4 ปี คสช. โดยมี ‘เนื้อหาโจมตี’ อย่างชัดเจน ว่า ทำให้ประเทศมืดมนและลิดรอนสิทธิประชาชน

ส่งผลให้ 8 แกนนำพรรคเพื่อไทย โดน คสช. แจ้งความ 4 กระทง

กระทงหนึ่ง.ฝ่าฝืนประกาศ คสช.ที่ 57/2557 ห้ามประชุมพรรคการเมือง
กระทงสอง ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ห้ามมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง
กระทงสาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
กระทงที่สี่ การยุยงปลุกปั่นเข้าข่ายมาตรา 116 ในประมวลกฎหมายอาญา

ทำให้เกิดกระแสในพรรคเพื่อไทยและมวลชน ว่าจะถูก ‘เตะตัดขา’ หรือไม่ ? โดยเฉพาะกระแสข่าว ‘ยุบพรรค’ นั่นเอง

ด้าน ฝ่ายความมั่นคงจับตา ‘พรรคอนาคตใหม่’ ไม่น้อย ตั้งแต่ภูมิหลังของ ‘ธนาธร – ปิยบุตร’ ที่มีแนวคิด ‘ตรงข้าม คสช.’ ผ่านงานวิชาการ และ กลุ่มนิติราษฎร์ อีกทั้งถูกจับตายิ่งขึ้นไปอีก หลังไปเยี่ยมให้กำลังใจ ‘กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง’ ที่ สน.ชนะสงคราม หลังถูกจับกุมเมื่อ 22พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัว ‘กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง’ โดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมเรียกร้องให้ยกเลิกคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ด้วย

ทำให้ ‘พรรคอนาคตใหม่’ อาจถูกโยงเป็น ‘ท่อน้ำเลี้ยง’ ของ ‘ม็อบเลือกตั้ง’ หรือไม่ในทันที ?

อีกทั้ง การสนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ของมวลชนที่ต่อต้าน คสช. ซึ่งเห็นได้ชัดเจนในวันประชุมจัดตั้งพรรคเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้การลงพื้นที่ช่วง 2 เดือนกว่าที่ผ่านมา ของ ‘ธนาธร – ปิยบุตร’ ใน 8 จังหวัด และการเฟซบุ๊กไลฟ์ ในรายการ "ธนาธรไลฟ์-คืนวันศุกร์ให้ประชาชน" ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00น. ตรงกับรายการของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ก็ทำให้ฝ่ายความมั่นคงจับตาเช่นกันว่าจะเข่าข่าย ‘หาเสียงล่วงหน้า’ หรือไม่ ?

“ถ้าเรายังกลัว ยังติดกับดัก ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ที่สังคมเป็นอย่างนี้เพราะเรากลัว เลิกกลัวได้แล้ว ถ้าคนยืนขึ้นหนึ่งคน สิบคน คุณจะกลัวเขา แต่เมื่อไรก็ตามที่เรายืนขึ้นเกินหมื่น คสช. ต่างหากที่ต้องกลัวประชาชน” นายธนาธร กล่าว

แน่นอนว่า ‘คำปราศรัย’ ในวันประชุมจัดตั้งพรรคของ ‘ธนาธร – ปิยบุตร’ จะเข้าข่าย มาตรา116 ฐานปลุกปั่นยุยง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ ? หลังมีการเฟซบุ๊กไลฟ์ผ่านเพจของพรรคด้วย เพราะ ‘พรรคเพื่อไทย’ ก็โดนมาแล้ว แม้ว่า คสช. จะอนุญาตให้จัดประชุมพรรคได้ก็ตาม แต่การจัดประชุมพรรคเป็นเพียงมาตรการ ‘ผ่อนคลาย’ จากการ ‘ปลดล็อกพรรค’ เท่านั้น

ทำให้ ‘ธนาธร – ปิยบุตร’ หวังจะปลุกให้ทุกพรรคและทุกคน ‘กดดัน’ ไปยัง คสช. ให้ ‘ปลดล็อกพรรค’ เพื่อให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้เต็มที่ เพื่อสร้างบรรยากาศปูทางไปสู่การเลือกตั้ง หากเกิดขึ้นตามโรดแมป คสช.คือช่วงต้นปี 2562

ซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ‘พรรคอนาคตใหม่’ จะอาสาเป็น ‘ผู้นำ’ ของบรรดาพรรคการเมืองเพื่อ ‘ผลักดัน’ วาระ ‘ปลดล็อกพรรค’ หรือไม่

แม้ว่าจะปฏิเสธไปแล้ว ที่สำคัญการจัดประชุมระหว่างพรรคต่างๆ กับ คสช. อาจต้องเลื่อนออกไปจากกำหนดการเดิมเดือน มิ.ย.นี้

“วันนี้ต้องรอ เพราะกฎหมายลูกยังอยู่ในกระบวนการ พ.ร.บ.ประกอปรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. กำลังรอศาลรัฐธรรมนูญแจ้งผลการพิจารณา และต้องมีขั้นตอนการทูลเกล้าฯ เมื่อกฎหมายออกมาเมื่อไหร่ ก็จะพิจารณากำหนดการที่จะพูดคุยหารือกับบรรดาพรรคการเมือง ซึ่งต้องรอลงพระปรมาภิไธยโปรดเกล้าฯ ก่อน และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ขอให้ใจเย็นๆ ยังเป็นไปตามกำหนดอยู่” นายกฯ กล่าว

ทั้งหมดนี้เป็น ‘ความเคลื่อนไหว’ ของพรรคอนาคตใหม่และฝ่าย คสช. ในสถานการณ์ที่แหลมคมเช่นนี้

‘ชะตากรรม’ ของพรรคอนาคตใหม่และ ‘ธนาธร – ปิยบุตร’ จะได้ไปสู่ ‘ฝั่งฝัน’ หรือไม่

หรือจะต้อง ‘จบฝัน’ ลงก่อนกำหนดการแสดงออกของต่างๆ จึงต้อง ‘ระมัดระวัง – รอบคอบ’ มากขึ้น ไม่เช่นนั้นจะ ‘ล้ม’ ตั้งแต่ยังไม่ออกวิ่งเลยก็ได้

จาก ‘อนาคตใหม่’ ระวัง ‘หมดอนาคต’ !!

อ่่านข่าวที่เกี่ยวข้อง