พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรสวนยางและสวนปาล์ม ที่ประสบปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำว่า ที่ประชุม ครม. ออกมาตรการช่วยเหลือ เช่น รับซื้อปาล์มน้ำมัน 18 บาท ต่อ กก.รวม 160,000 ตัน เพื่อนำไปผลิตไฟฟ้า ระยะยาวจะเพิ่มการใช้น้ำมัน E20 เป้าหมายเพิ่มปีละ 500,000 ตัน

ส่วนการแก้ไขปัญหาราคายาง ต้องเข้าใจก่อนว่าผลผลิตยางมากเกินความต้องการใช้งานในประเทศ ที่เหลือจึงต้องส่งขายยังต่างประเทศ ซึ่งไทยมียางมากกว่าประเทศอื่นๆ ดังนั้นราคายางพาราในประเทศจึงขึ้นอยู่กับจำนวนผลผลิต ดังนั้นจึงต้องสร้างความเข้มแข็งและลดพื้นที่การปลูกยาง แต่ปัจจุบันก็ยังมีปัญหาโดยรวม 

ดังนั้นรัฐบาลจึงจะดูแลในส่วนที่ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้มีมาตรการเสนอเข้าไปแล้วแต่ต้องให้การยางแห่งประเทศไทยเป็นผู้พิจารณา เบื้องต้นรัฐบาลมีมาตรการในการช่วยเหลือไม่เกิน 15 ไร่ และเพิ่มปริมาณการใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น ส่วนเกษตรกรชาวสวนยางออกมาชุมนุมประท้วง เมื่อวานนี้ (19 พ.ย.) ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาแล้ว 

ยืนยันรัฐบาลพยายามดูแลทุกภาคส่วน และขณะนี้รัฐบาลพยายามจะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและมีการเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ซึ่งจะทยอยช่วยเหลือแต่ทุกอย่างต้องเดินหน้าตามกฎหมายและอยู่ภายใต้งบประมาณ ที่กำหนดไว้ และไม่อยากให้มองว่ารัฐบาลนี้กำลังแจกเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ดำเนินการไว้แล้วตามกฎหมายแค่มาทยอยออกในช่วงนี้เพราะเป็นมาตรการต่อเนื่อง

ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินการหามาตราการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง หลังเกิดปัญหาราคาน้ำมันปาล์มตกต่ำ พร้อมยืนยันว่า ปัญหาดังกล่าวไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นปัญหาที่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจริง