นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขกฎหมายป.ป.ช.ว่าด้วยการรับทรัพย์สิน หรือ ประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ มาตรา 103 และประกาศแนวทางการปฏิบัติสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมาย ป.ป.ช. ปี 2544 เกี่ยวกับการรับสิ่งของหรือทรัพย์สินอื่น มูลค่าไม่เกิน 3,000 บาท ว่า ตนไม่ได้เสนอให้มีการปรับวงเงิน เพียงแต่คุยกับผู้สื่อข่าวว่า อาจมีการปรับปรุงตัวเลข 3,000 บาท
เนื่องจากกฎหมายบังคับใช้ตั้งแต่ ปี 2542 แต่หากไม่เห็นด้วยก็ไม่ว่ากัน แต่เรื่อง 3,000 บาท ไม่อยู่ในกฎหมาย แต่มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คือ กฎหมาย ป.ป.ช. ฯ มาตรา 103 ที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐข้าราชการ รับไม่ได้แม้แต่บาทเดียว เว้นแต่เป็นการรับโดยธรรมจรรยา จรรยาบรรณ ตามวงเงินที่ ป.ป.ช. ประกาศและกำหนดไว้
ซึ่งต่อมา ป.ป.ช. ประกาศ 2544 ไม่สามารถรับเงินได้แม้แต่บาทเดียว เว้นการรับโดยธรรมจรรยาเท่านั้น ภายใต้เงื่อนไข 3 ข้อ 1. การรับจากญาติ ไม่กำหนดวงเงิน 2. การรับจากบุคคลที่ไม่ใช่ญาติในโอกาสต่างๆ ไม่เกิน 3,000 บาท และ 3. บุคคลทั่วไป จะเกินหรือไม่เกินก็ได้ เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับ
ทั้งนี้เน้นย้ำว่ากฎหมายไม่ได้ห้ามคนให้ แต่ห้ามคนรับแต่ไม่ได้หมายความเฉพาะนักการเมืองเท่านั้น แต่รวมถึงนักการภารโรง เจ้าหน้าที่ธุรการ จนถึงพนักงานรัฐวิสาหกิจ รวมถึงกรรมการต่างๆ และเอกชนที่เป็นบอร์ดของรัฐ แต่อย่าพูดเล่นๆ ง่ายๆ ว่าห้ามรับเกิน 3 พันบาท
นายวิษณุ ยืนยันว่าไม่ใช่ผู้เสนอ เพราะตนและรัฐบาลเสนอไม่ได้ แต่เคยคุยกับ ป.ป.ช. ซึ่ง ป.ป.ช. จะไปพิจารณา ซึ่งการแก้ไขอาจจะต้องมีเงื่อนไขอื่นด้วน เช่น บางกรณีแม้แต่ 1,000 บาท ก็รับไม่ได้ แต่จะต้องครอบคลุมกับทุกคน
ข่าวเพิ่มเติม