ไม่พบผลการค้นหา
'วิโรจน์-เบญจา' เข้า 'เตรียมพัฒน์' ประชุมหาทางพา 'หยก' กลับเข้าเรียน แต่ยังติดต่อ ผอ.ไม่ได้ ด้าน 'ผกก.สน.ประเวศ' แจงกองร้อยน้ำหวานเข้า รร.เตรียมพัฒน์ มาดูแลความปลอดภัยใหัทุกฝ่าย

วันที่ 19 มิ.ย. ที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เบญจา แสงจันทร์ ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนเอง และ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อยู่ระหว่างการประชุมร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษาของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ พร้อมกับ บุ้ง-เนติพร นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ในฐานะผู้ปกครองของหยก 

โดยทุกฝ่ายกำลังประชุมหาแนวทางให้เด็กได้เรียนต่อ ซึ่งแต่ละฝ่ายกำลังเสนอข้อคิดเห็น พร้อมบอกว่าก่อนหน้านี้ได้เชิญผู้อำนวยการโรงเรียนมาร่วมหารือด้วย แต่ยังติดต่อไม่ได้ ขณะที่ต้นสังกัดของสถานศึกษา อยากให้ได้ข้อสรุปก่อนแล้วเสนอความเห็นไป 

ส่วนกรณีที่มีตำรวจหญิงควบคุมฝูงชน (กองร้อยน้ำหวาน) ประมาณ 10 นาย เข้าไปในโรงเรียน เบญจา ระบุว่า โรงเรียนชี้แจงว่าเป็นการเข้าไปดูแลความเรียบร้อยเท่านั้น เนื่องจากกังวลว่าหยกจะไม่ปลอดภัย

ด้าน พ.ต.อ.สุรพงษ์ พุฒขาว ผู้กำกับการ (ผกก.) สถานีตำรวจนครบาลประเวศ ชี้แจงกรณีปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกำลังตำรวจหญิงควบคุมฝูงชน กองร้อยน้ำหวาน ประมาณ 10 นาย เข้าไปในพื้นที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ซึ่งมีประเด็นของ หยก เยาวชนอายุ 15 ปี ที่มีปัญหาเรื่องการรักษาสถานะนักเรียน

โดยยืนยันว่า ทางโรงเรียนได้มีการประสานมาให้ช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัยของบุคลากรในโรงเรียน ป้องกันการกระทบกระทั่งกันระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง สน. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรสจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาดูแลอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ใช้กำลังตำรวจจำนวนมาก ทางผู้ปกครอง รวมถึงทางโรงเรียน ถ้าประสานงานขอตำรวจหญิงมาช่วยประสานงานดูแลความปลอดภัย โดยไม่ได้มีประเด็นอื่น

พ.ต.อ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ทางโรงเรียนกังวลอาจจะมีเพื่อนของหยก หรือผู้ที่ไม่หวังดี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น และหากเป็นตำรวจหญิงที่ไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ก็จะทำให้บรรยากาศก็จะดูอ่อนลง ไม่ตึงเครียด

พ.ต.อ.สุรพงษ์ ยืนยัน ทางเจ้าหน้าที่ไม่มีเจตนามาปฏิบัติการจับกุมใคร เพียงแต่มาดูแลเรื่องความปลอดภัยให้กับโรงเรียนและบริเวณรอบข้าง โดยยังไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีใดๆ มาทั้งสิ้น สำหรับการดูแลความเรียบร้อยเฉพาะในวันนี้ หากพรุ่งนี้โรงเรียนไม่มีเหตุวุ่นวายอะไร ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ตำรวจทั้งในหรือนอกเครื่องแบบก็ตาม