เอกชัย หงส์กังวาล พร้อมด้วย ภวัต หิรัณย์ภณ นักกิจกรรมด้านความหลากหลายทางเพศและสิทธิมนุษยชน ยื่นหนังสือต่อสถานเอกราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย โดยมีเจ้าหน้าที่ประจำสถานฑูตออกมารับหนังสือ กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าพบนาย วัน ม่อง วิน รมว.ต่างประเทศเมียนมา 

โดยเอกชัย ระบุว่า การมาวันนี้เพื่อมาแสดงหลักฐาน ตั้งแต่เมียนมาทำรัฐประหารที่ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ยังไม่มีประเทศใด ให้กับการรับรอง การทำรัฐประหารของเมียนมาครั้งนี้เลย แต่รัฐบาลไทย ได้สร้างเชอไพรส์ ด้วยการเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศของเมียนมามาร่วมพูดคุย โดยอ้างว่าเป็นการมาหารือ หรือแม้แต่ประเทศในอาเซียน ก็ยังไม่มีใครให้การรับรองเลย ก่อนหน้านี้ประเทศอินโดนีเชีย มีแผนจะเดินทางไปเยือนเมียนมา แต่ก็ต้องยกเลิกไป 

แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับเชิญรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา มาเข้าพบ ซึ่งถือว่าเข้าข่าย เป็นการยอมรับ ถึงแม้ว่าจะไม่พูด ว่ายอมรับ หรือ ไม่ยอมรับก็ตาม แต่การที่เชิญเมียนมาเข้ามาพบ เพื่อหารือปัญหาบ้านเมือง กิจการบ้านเมืองในประเทศไทยนั้น ก็เท่ากับว่าเป็นการยอมรับอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม ตนทราบว่า ทางสหรัฐฯ มีกฏหมายตัวหนึ่ง ที่เรียกว่า “กฏหมายแม็กนิตสกี”ซึ่งกฏหมายตัวนี้ ให้สิทธิต่อรัฐบาล ในการลงโทษ บุคคลที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือให้การสนับสนุน ทั้งทางตรงหรืออ้อม โดยสหรัฐอเมริกา มีสิทธิให้อำนาจตรงนี้ ในการอายัดทรัพย์สิน หรือ แบนไม่ให้บุคคลเหล่านี้เข้าประเทศ รวมถึงการตัดความช่วยเหลือด้านต่างๆ ถือเป็นการลงโทษ 

นอกจากนี้ การมาที่ด้านหน้าสถานทูตวันนี้ ยังได้มายื่นหลักฐาน พร้อมทั้งรายชื่อผู้ที่ถูกดำเนินคดี 112 รวมกลุ่มชาวบ้านบางกลอย ที่ได้รับผลกระทบจากากรถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อยุติจากหน่วยงานภาครัฐ

อ่านเพ่ิมเติม

• สื่อเมียนมาประโคมข่าว ผู้แทนรปห.เยือนไทย ตามคำเชิญนายกฯ
• เลื่อนฟังคำสั่งฟ้องคดี ม.110 กรณีขบวนเสด็จ เป็นวันที่ 31 มี.ค.