วันที่ 2 ธ.ค. 2565 ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีธุรกิจทุนจีนสีเทาของนาย "ตู้ห่าว" ที่เกี่ยวข้องทั้งยาเสพติดและการพนัน กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงที่คนในสังคมไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ข่าวการบุกจับ ยึดทรัพย์ บ้าน รถ เครื่องบินส่วนตัวและคอนโดหรู รวมมูลค่าหลายพันล้านบาท ทำให้อดตั้งคำถามไม่ได้วันนี้ประเทศไทยเกิดอะไรขึ้น การที่ทุนจีนสีเทาอย่างนายตู้ห่าว มีนอมินี เปิดบริษัท ฟอกเงิน สร้างเครือข่ายธุรกิจจนมีมูลค่าทรัพย์สินมหาศาลมากมายขนาดนี้ในสังคมไทยได้อย่างไร เพราะธุรกิจผิดกฎหมายทุกประเภทไม่ว่ายาเสพติด การพนัน ผับบาร์ ค้าประเวณี จะเติบโตได้ต้องอาศัยปัจจัยที่สำคัญ คือ อำนาจรัฐเป็นเกราะป้องกันการถูกจับกุมใช่หรือไม่ ประกอบกับส่วนหนึ่งของการเติบโตของทุนจีนสีเทาคือความไม่เอาจริงจัง และปล่อยละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงาน
รวมทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีมีอำนาจรัฐในการสั่งการแต่กลับปล่อยปละละเลยมาตลอดใช่หรือไม่ เหตุใดเพิ่งจะมาเร่งสร้างผลงานโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งหวังคะแนนเสียง ทั้งๆที่ตลอด 8 ปีทำได้ เหตุใดจึงไม่ทำ เรื่องเหล่านี้ประชาชนล้วนตั้งคำถามอยากให้รัฐสร้างความชัดเจน อย่างน้อยการอนุมัติวีซ่า ซึ่งถือเป็นด่านแรกในการเข้าสู่ราชอาณาจักรไทย ก็ควรเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดขึ้นตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่มาไล่ตามจับเมื่อพบการกระทำผิดแบบนี้
ลิณธิภรณ์ กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ศาลมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์ ตู้ห่าว เพราะเงินบริจาคพรรคการเมืองหนึ่งมีที่มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย จึงอยากฝากถึง กกต. ว่าการบริจาคเงินให้พรรคการเมืองของ ตู้ห่าวในปี 2564 มูลค่า 3 ล้านบาท ถือว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 72 และ มาตรา 92 ใช่หรือไม่ อาจทำให้ถึงขั้นยุบพรรคได้ อย่าเมินเฉยละเลยข้อสงสัยของสังคม เพื่อป้องกันและสร้างมาตรฐานการบริจาคเงินให้พรรคการเมืองในอนาคต
“พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไม่ลืมว่าตนเองถูกเสนอชื่อเป็นแคนนิเดตนายกฯจากพรรคการเมืองดังกล่าว นอกจากท่านจะไม่เหลือความสง่างามใดๆในการบริหารประเทศจากหลายกรณีที่ผ่านมาทั้งความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน ยังคงปล่อยปละละเลยจนการทุจริตตกต่ำลงเรื่อยๆ ตามที่องค์กรนานาชาติจัดอันดับ รีบประกาศยุบสภา เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย” ลิณธิภรณ์ กล่าว