พันตำรวจโทสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการสันติบาล เดินทางเข้าเยี่ยมอาการนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือ "จ่านิว" นักเคลื่อนไหวทางการเมืองแกนนำกลุ่มสตาร์ทอัพพีเพิล ที่ โรงพยาบาลมิชชั่น เขตดุสิต กทม. หลังถูกกลุ่มชายฉกรรจ์หลายคนก่อเหตุใช้ไม้รุมตีได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นป้ายรถประจำทางใกล้ห้างเดอะสตรีทรัชดา ถนนรัชดาภิเษก หลังจากนายสิรวิชญ์ เดินทางไปร่วมทำกิจกรรมตั้งโต๊ะเปิดรับรายชื่อยื่นเรียกร้องให้ ส.ว. งดออกเสียงโหวตนายกรัฐมนตรี ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา
พันตำรวจโทสันธนะ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเข้าเยี่ยมระบุว่า คนในสังคมและตัวเองต่างรู้ดีว่าการกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นฝีมือใครและใครอยู่เบื้องหลัง โดยพันตำรวจโทสันธนะ ให้นิยามผู้ก่อเหตุว่าเป็น "อันธพาลสีเขียว" และขอให้ยุติพฤติกรรม หากไม่มีเงินใช้ก็ไม่ควรทำอาชีพเช่นนี้ให้บอกตัวพันตำรวจโทสันธนะ จะหางานให้ทำพร้อมฝากถึงนักกิจกรรมทางสังคมการเมืองที่เคลื่อนไหว ว่าส่วนตัวได้ติดตามและเข้าใจเจตนาการเคลื่อนไหวและถือเป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง หากมีปัญหาอะไรก็ติดต่อขอความช่วยเหลือกับทางตำรวจโทสันธนะได้ ซึ่งตัวเองพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ขณะที่นายจตุพร ระบุว่ามองว่าสถานการณ์ของบ้านเมืองมาถึงจุดที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์ ถ้าผู้มีอำนาจยังไม่รู้สึกรู้สา วันนี้จึงมาบอกเพื่อจะขอสันติจากผู้มีอำนาจ ที่ผ่านมาแกนนำ นปช. ได้จัดระยะห่างจากการเคลื่อนไหวของนักศึกษา เพื่อให้เป็นพลังบริสุทธิ์ นปช.ยืนอยู่ในฐานที่มั่นมาโดยตลอด แต่เรื่องนี้เกินกว่าทนทานได้ เพราะเห็นว่าทำเกินไป โดยมองว่าการทำร้ายจ่านิว เป็นการส่งสัญญาณที่จะนำพาประเทศไปสู่ความรุนแรงและขัดแย้งอย่างหนักครั้งใหม่ โดยให้ดูประวัติศาสตร์ก่อนเกิดเหตุการณ์ อาชกรรมรัฐ 6 ตุลาคม 2519 ที่เริ่มจากนักศึกษาถูกยิงที่ป้ายรถเมล์และนักเคลื่อนไหวต่างๆถูกคุกคาม พร้อมเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจดำเนินการเพื่อหยุดยั้ง ไม่ใช่ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า "ไปทำอะไรเขาเข้าเขาถึงมาทำร้าย" ซึ่งสังคมรู้ดีว่าจ่านิวเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและเป็นผู้นำนักศึกษาจึงไม่มีเรื่องอื่นใดที่เป็นเหตุให้ถูกทำร้าย
ประธาน นปช. ระบุอีกว่า เราต้องการอยู่ในสังคมมนุษย์ ไม่ใช่สังคมสัตว์เดรัจฉาน ที่จะต้องหาทางออกด้วยการใช้กำลัง ดังนั้น ความเห็นที่แตกต่างคือสิ่งสวยงามในระบอบประชาธิปไตย เมื่อต้องการเข้าสู่อำนาจในระบบรัฐสภาภายใต้กฎเกณฑ์ที่ออกแบบมาให้ได้เปรียบอยู่แล้ว ก็ต้องยอมรับความเห็นที่แตกต่าง เพราะความแตกต่างมีมากเท่าไร ยิ่งเป็นประชาธิปไตยมากเท่านั้น
เช่นเดียวกับตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ภาพการเข้าเยี่ยม จ่านิว พร้อมทั้งประนามกลุ่มคนที่คอยทำร้ายร่างกาย กลุ่มนักเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็น จ่านิว หรือ เอกชัย หรือนักเคลื่อนไหวท่านอื่นๆ
นอกจากนี้ขอฝากไปถึงกลุ่มคนดักทำร้ายว่า “จ่านิว และนักเคลื่อนไหวท่านอื่นๆ เขามีความกล้ากว่าคุณเยอะ ที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง ตามสิทธิของเขา ตามรัฐธรรมนูญไทย มีแต่พวกคุณ ที่ขี้ขลาด ต้องคอยปิดหน้าตัวเอง ใส่หมวกกันน๊อค คอยดักตี แล้วก็หนีไป เหมือน “หมาหมู่คอยลอบกัด”
"ผมขอฝากเป็นกำลังใจให้จนท.ตำรวจทุกท่านในการนำตัวบุคคลคนร้ายเหล่านี้ มาดำเนินคดีโดยเร็ว ผมเชื่อว่าคดีแค่นี้ ตำรวจเราสามารถไล่กล้อง และสามารถหาตัวผู้กระทำผิดได้ไม่ยากแน่นอน และขอให้จนท.ตำรวจช่วยเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลกลุ่มนักเคลื่อนไหว เพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ขอเถอะครับ ผมขอย้ำนะครับว่า “เราทุกคนมีสิทธิ มีเสรีภาพ ในการแสดงออกอย่างเท่าเทียมกัน"
อ่านเพิ่มเติม