การขยายเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน จากเดิมที่จะครบกำหนดสิ้นสุดการใช้วันที่ 30 เม.ย.นี้ เพื่อให้รัฐสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มีประสิทธิภาพ ทำให้กลุ่มศิลปินพื้นบ้าน หมอลำ ต้องงดการแสดงยาวไปอีก 1 เดือน รายได้หดหาย และยังต้องคอยดูแลลูกวงให้หลายสิบชีวิตให้ผ่านพ้นสถานการณ์ไปได้
ทีมข่าว วอยซ์ออนไลน์ ได้พูดคุยกับ พ่อเอ๊ะ ภักดี พลล้ำ หัวหน้าคณะหมอลำระเบียบวาทะศิลป์ หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยืดเยื้อ และยังต้องยกเลิกการแสดงไปยาวอีก 1 เดือน เขายอมรับว่า รู้สึกเสียใจ และเครียดมาก เนื่องจากเป็นห่วงบรรดาลูกวง ที่มีรายได้หลักจากการแสดงหมอลำ หลายคนยังเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องดูแลอีกหลายชีวิต 1 เดือนที่หยุดการแสดงไป ไม่มีรายรับเข้า เงินเก็บออมก็หร่อยร่อลง
“ตอนนี้ยังเตรียมการแผนรองรับไม่ทันเลยครับ จะทำอะไรทางรัฐก็ยังไม่เปิด 100% มีแต่รอและภาวนาให้ได้กลับมาทำการแสดงให้ได้เร็วที่สุด”
หัวหน้าคณะระเบียบวาทะศิลป์ ยอมรับว่าก็เข้าใจรัฐบาลว่ามันเป็นภาระอันยิ่งใหญ่ แต่ก็อยากให้ภาครัฐเหลียวแลกลุ่มศิลปินพื้นบ้าน หมอลำบ้าง พิจารณาเยียวยาสมาชิกทุกๆ ชีวิต ทุกๆ คณะ และอยากให้ออกมาตรการพักชำระหนี้ในทุกๆ ธนาคารไปจนกว่าจะสามารถกลับมาทำงานได้อีก เพราะไม่ใช่แค่กลุ่มหมอลำ แต่ทุกๆคนทุกๆอาชีพก็ได้รับผลกระทบ ขาดรายได้ ซึ่งลูกวงบางคนก็ปรับตัวหารายได้ ขายของออนไลน์ประทังชีวิต ช่วยตัวเองกันในเบื้องต้น
ซึ่งพ่อเอ๊ะ ก็ได้แต่หวังว่า คณะหมอลำทุกๆคณะ ทุกๆคน จะอดทนไปด้วยกัน หากสามารถประกอบอาชีพอะไรได้ ก็ทำเพื่อหารายได้ไปก่อน ใครมีที่ทางก็ใช้ให้เป็นประโยชน์ ขอให้ขยันอย่าไปเครียดแต่เรื่องเงินให้คิดว่าเราจะปลูกกินจะเลี้ยงอะไรกินกันช่วงนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆคนนะครับทุกสาขาอาชีพที่ได้รับผลกระทบขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองนะครับ
ขณะที่คณะหมอลำใจเกินร้อย บอย ศิริชัย หรือ ภู่กัน ปุริสาย หัวหน้าคณะ ยอมรับและเข้าใจในมาตรการของภาครัฐ ที่ยังต้องหยุดการแสดงไป เพราะเขาคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา มาตรการต่างๆที่รัฐบาลได้ทำมาช่วง 1 เดือนของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินประกอบกับความร่วมมือของพี่น้องประชาชนก็ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงจากวันละร้อยเหลือวันละต่ำสิบซึ่งก็ถือว่าได้ผล เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน การต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ก็ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายอะไร แต่ในฐานะหัวหน้าวงหมอลำใจเกินร้อย ก็รู้สึกใจหายว่าภาระต่างๆที่มีก็จะทำให้ลำบากเช่นภาระหนี้สิน ภาระการดูแลลูกน้องที่ไม่ได้เงินเยียวยา ภาระทางครอบครัว ก็จะกินเวลายาวขึ้นไปอีก แต่อย่างที่หลายๆคนพูดว่า เจ็บแต่จบ รัฐจะออกนโยบายอะไรมาขอให้เราได้กลับมาหาเงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเร็วที่สุด เรายินดีทำตามหมดครับ
ส่วนการแก้ไขปัญหา จากที่วงต้องขาดรายได้ บอย ศิริชัย เผยว่า สำหรับภาระของหัวหน้าวงเรื่องของหนี้สินก็ต้องผ่อนผัน หากอันไหนผ่อนผันไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฏของสังคม มีทรัพย์สินเงินทองอะไรที่พอจะนำออกมาผ่อนวิกฤติให้เบาบางลงก็ต้องทำ ในส่วนการดูแลสมาชิกในวงก็มีการให้แสดงออนไลน์ (ตามหลัก social distance และไม่มีการชุมนุม)หรือหารายได้จากแหล่งอื่นๆ ช่วย เช่น ขายสินค้าออนไลน์ เราก็จะทำหน้าที่ประสานกับเจ้าของสินค้าโดยที่มีสมาชิกในวงและผมเองเป็นเหมือนผู้ค้าปลีกเนื่องจากพอมีคนติดตาม(แฟนเพลง) โดยแฟนเพลงก็สนับสนุนช่วยเหลือตามช่องทางต่างๆให้บรรเทาวิกฤตลงได้นิดหน่อย แต่พี่น้องแฟนเพลงก็ลำบากไม่ต่างกับเราก็เห็นใจทุกคน หลักการในการช่วยเหลือทั้งตัวเองก็คือหาอาชีพเสริมโดยใช้ความถนัดของเราคือการร้องการลำ มาช่วยเสริมอาชีพเสริมนั้นๆ
บอย ศิริชัย ยังคาดหวังให้ภาครัฐ มีมาตรการเยียวยากลุ่มหมอลำบ้าง และสามารถผ่อนปรนในการจัดงานมหรสพ งานประเพณีได้ในเร็วๆนี้
“จริงๆหมอลำคือวัฒนธรรมอีสานวงหมอลำก็คือเหล่าศิลปิน ก็คือ คนที่อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งหมอลำก็จะไปพร้อมๆกับขนบธรรมเนียมประเพณี ส่วนตัวผมคิดว่า งานมีมหรสพสมโภชน์ในงานประเพณี น่าจะผ่อนปรนให้ทำได้เร็วๆนี้โดยอาจจะต้องมีมาตรการในการรักษาระยะห่างระหว่างสังคม หลีกเลี่ยงการสัมผัส ควบคุมจำนวนคนที่เข้าชม วัดไข้ ล้างมือเป็นต้น แต่ทำในลักษณะงานประเพณี เมื่อทุกอย่างคลี่คลายก็ค่อยว่ากันเรื่องการแสดงเต็มรูปแบบ ส่วนตัวผมเรื่องมาตรการเยียวยาอื่นๆก็ควรจะให้วัฒนธรรมจังหวัดลงมาดูแลวงหมอลำอย่างใกล้ชิดเหมือนกระทรวงเกษตรฯ ดูแลเกษตรกร เป็นต้น เพราะผู้ได้รับผลกระทบในการหยุดการแสดงคือหมอลำ ซึ่งอยู่ในวัยทำงานและเป็นกำลังหลักของครอบครัวเหมือนอาชีพอื่นๆ หมอลำล้ม ก็ล้มทั้งครอบครัว เป็นโดมิโน่ไป ควรมีมาตรการเยียวยาพิเศษเหมือนที่รัฐบาลดูแลเกษตรกรครับ"
บอย ยังทิ้งท้ายฝากหมอลำเพื่อนร่วมอาชีพ ว่า ฝากถึงหมอลำ นักแสดง ศิลปินทุกท่านครับ เมื่อถึงเวลายากลำบาก หากเราทุกคนตั้งสติ ไตร่ตรอง หาทางออกมันอาจจะลำบากยากเข็ญในการจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ แต่มันจะผ่านไปได้ มีอะไรหยิบจับมาหารายได้ เงินนิดเงินน้อยก็ดีกว่าไม่มีรายได้เลย อดทน แล้วมันจะผ่านไปตรงปลายอุโมงค์มักมีแสงสว่างสวยงามเสมอครับ ไม่ใช่แค่เราที่ได้รับผลกระทบคนทั่วโลกก็ได้รับลกระทบเช่นกันมากน้อยแตกต่างกันไป เมื่อวิกฤติผ่านไปเราจะกลับมายืนจุดที่ดีขึ้นครับ สู้ไปด้วยกันนะครับ
เช่นเดียวกับ หมอลำนามวิหค นก พงศกร แสนปากดี หัวหน้าคณะ เผยว่า ระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันหลายๆอย่างแล้ว ซึ่งได้ติดตามข่าวอยู่ตลอด เลยมีการเตรียมตัวเตรียมใจไว้บ้าง ซึ่งทางคณะได้ปรับตัวตั้งแต่เริ่มแรก ที่หยุดการแสดง ด้วยการแสดงหมอลำออนไลน์ มาลัยน้ำใจจากแฟนๆที่เมตตา ก็สามารถนำมาเลี้ยงดูชาวคณะได้บ้าง นอกจากนี้ยังมีการขายของออนไลน์ โดยตอนนี้วางแผนเปิดร้านอาหาร เพื่อเป็นอีกหนทางหารายได้มาดูแลลูกวง ในขณะที่ยังไม่สามารถทำการแสดงได้
แม้ หัวหน้าคณะหมอลำนามวิหค จะวางแผนปรับตัวไว้บ้าง แต่เขาก็คาดหวังว่า รัฐบาลจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะการแก้ไขโรคโควิด-19 และปัญหาต่างๆ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องทำ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแต่ทีมงานคณะหมอลำที่มีผลกระทบ คนไทยทั้งประเทศก็กระทบไปด้วย ซึ่ง นก พงศกร ก็ขอเป็นกำลังใจให้หมอลำทุกคณะ บุคลากรทุกคนทุกตำแหน่งครับ เราผ่านกันมาได้หลายเดือน อดทนอีกสักนิดครับ จับมือกันผ่านไปพร้อมๆกัน เป็นกำลังใจให้กันและกันครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :