พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุม กลุ่มขบวนการที่กระทำผิดกักตุนหน้ากากอนามัย ,เจลล้างมือแอลกอฮอล์ แล้วนำมาจำหน่ายในราคาแพงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ทำให้ประชาชนทั่วไปได้รับความเดือดร้อนนำตัวมาดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดโดยเร็ว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร., ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ผอ.ศปอส.ตร.) ดำเนินการเร่งรัด สืบสวนติดตามจับกุม
ล่าสุด ตำรวจ ศปอส.ตร. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.9 และ นายชาตรี อารีวงศ์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบและปฏิบัติการ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้สืบทราบว่ามีกลุ่มแก๊งชาวจีน ลักลอบนำเข้าหน้ากากอนามัย, เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ,เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ ,อุปกรณ์สำหรับใช้ป้องกันการติดต่อโรคโควิด 19 รวมทั้งสิ่งของอย่างอื่น จากต่างประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อนำเข้ามาลักลอบจำหน่ายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ จากนั้นจึงส่งสินค้าทางพัสดุให้กับลูกค้า จึงได้สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลอาญาธนบุรี ขออนุมัติหมายค้นสถานที่ตรวจค้น บ้านเลขที่ 113/5-6 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
ต่อมาเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2563 เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายค้นของศาลอาญาธนบุรี เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวพบ Mr.LI MINGFAN สัญชาติจีน แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและเป็นผู้ดูแลสถานที่ดังกล่าว และ MR.ZHANG CHAOWEI สัญชาติจีน เป็นพนักงานอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แสดงความบริสุทธิ์ใจ และแสดงหมายค้นให้ Mr.LI MINGFAN สัญชาติจีน ตรวจสอบจนเป็นที่พอใจแล้ว Mr.LI MINGFAN อนุญาตให้ทำการตรวจค้นและเป็นผู้นำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ หน้ากากอนามัยเจลล้างมือแอลกอฮอล์ ,เครื่องตรวจวัดอุณภูมิในร่างกาย ,วัตถุหรือสิ่งลามก ,Sextoy และน้ำมันสกัดจากพืชกัญชง รวมของกลางกว่า 5,000 รายการ มูลค่ากว่า 5,000,000 บาท จึงได้ตรวจยึดและจับกุมชาวจีนทั้งสองคน
จากการสอบสวนขยายผลชาวจีนทั้งสองคน รับว่าสิ่งของที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดได้นั้นตนเองได้นำเข้าจากต่างประเทศโดยขนส่งทางเรือขนส่งสินค้า จากนั้นจึงนำมาเก็บไว้ภายในบ้านหลังดังกล่าว ที่ถูกตรวจค้นเพื่อเตรียมจำหน่ายให้กับลูกค้าทั่วไปที่มาติดต่อสั่งซื้อทางออนไลน์ จากนั้นจึงส่งสินค้าให้กับลูกค้าทางพัสดุโดยมีการปิดบังข้อมูลของผู้ส่งเพื่อให้ยากต่อการสืบสวนติดตาม โดยมีชาวจีนที่พักอาศัยอยู่ที่ประเทศจีนเป็นผู้ควบคุมและสั่งการ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจะได้สืบสวนขยายผลต่อไป และได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายดังต่อไปนี้
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการตรวจสอบและจับกุมผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องรายอื่นเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และขอสื่อมวลชนช่วยประชาสัมพันธ์ ไปยังประชาชนทั่วไป หากพบเบาะแสต้องสงสัยการกระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวสามารถแจ้งมายัง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติโทร.02-2527883-4 ถือเป็นการร่วมมือร่วมใจกันผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดโควิด 19 ไปด้วยกัน