พรรคสามัญชน ออกแถลงการณ์เรื่อง "กองทัพต้องยุติการแทรกแซงทางการเมือง และการรัฐประหาร" โดยมีเนื้อหาระบุว่า จากกรณีการให้สัมภาษณ์ ของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2561 ที่กองบัญชาการกองทัพบก ต่อคำถามที่ว่า กองทัพจะปฏิวัติอีกหรือไม่ ระบุว่า "ถ้าการเมืองไม่เป็นต้นเหตุของการจลาจล ก็ไม่มีอะไร ประเทศไทยเคยมีปฏิวัติมา 10 กว่าครั้ง ช่วงหลังเกิดจากการเมืองทั้งสิ้น แต่เชื่อว่านักการเมืองที่ดีก็มี ไม่ดีก็มี เสียใจที่เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมถูกละเมิด" นั้น
สามัญชนเห็นว่า การให้สัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย ย้อนแย้งกับการเดินหน้าสู่การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ทำให้ประชาชนในสังคมไทยรวมทั้งนานาประเทศเกิดความไม่เชื่อมั่น สับสน และมองเห็นแนวโน้มในการเกิดการรัฐประหาร โดยอ้างถึงสถานการณ์ทางการเมือง
อันแสดงถึงการไม่ยุติบทบาทในการแทรกแซงทางการเมือง ทั้งยังขัดแย้งกับความพยายามของสังคมที่จะนำพาประเทศกลับคืนสู่การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่อำนาจสูงสุดมาจากประชาชน ไม่ใช่มาจากการรัฐประหาร ความรุนแรงและกำลังอาวุธ
นอกจากนี้ การให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.อภิรัชต์ ยังเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา มาตรา 113 ที่ระบุว่า "มาตรา 113 ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย เพื่อ
(1) ล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ
(2) ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการแห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือ
(3) แบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร
ผู้นั้นกระทำความผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต" อีกด้วย
พรรคสามัญชนเห็นว่า การรัฐประหาร 13 ครั้ง ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลากว่า 86 ปี ทำให้เกิดการฉีกรัฐธรรมนูญถึง 19 ฉบับ ได้หยุดยั้งพัฒนาการทางสังคม การเมือง และวัฒนธรรม ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย บั่นทอนหลักการประชาธิปไตยฐานราก อำนาจการตัดสินใจกระจุกตัวที่ส่วนกลางผ่านกลไกราชการ รวมศูนย์อำนาจการจัดสรรทรัพยากรไว้ที่ส่วนกลาง เอื้อประโยชน์แก่บริษัทนายทุนใหญ่ที่เข้าร่วมกับผู้มีอำนาจ เปิดโอกาสในการคอรัปชั่นมากขึ้นโดยปราศจาการตรวจสอบจากประชาชน
สามัญชนเป็นการรวมกลุ่มของคนธรรมดาคนเล็กคนน้อยในสังคมไทย ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและได้รับผลกระทบจากผลพวงการพัฒนาประเทศที่ไม่คำนึงถึงสิทธิชุมชนและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งระบบการเมืองที่ไม่เห็นหัวคนจนและการรัฐประหาร พวกเราเชื่อว่า การสร้างประชาธิปไตยจากรากฐาน เคารพสิทธิมนุษยชน และความเท่าเทียมเป็นธรรม จะเป็นพื้นฐานการพัฒนาที่จะเอื้อประโยชน์ให้กับทุกคนในประเทศนี้
"เราจึงมิอาจยอมรับวงจรของการรัฐประหารของการเมืองไทยได้อีก"
โดยสามัญชนขอเรียกร้องให้ผู้บัญชาการทหารบก แถลงยืนยันว่าการรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้น เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อคำพูดที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคมและประเทศดังที่กล่าวมา รวมถึงเรียกร้องต่อสามัญชนทั่วประเทศ ให้ร่วมกันประกาศว่าให้ทุกคนได้ยินว่า “พอกันที การรัฐประหาร และรัฐทหาร" เราจะร่วมกันสร้างประชาธิปไตย และร่วมกันปลดอาวุธ คสช. เพื่อยุติการแทรกแซงทางการเมืองของกองทัพ
อ่านเพิ่มเติม