ไม่พบผลการค้นหา
เจมส์ บอนด์ จะหันมาขับรถพลังงานไฟฟ้าในหนังภาคใหม่ ซึ่งน่าจะช่วยรณรงค์ให้คนหันมาขับรถไฟฟ้่าเพื่อลดการปล่อยมลภาวะมากขึ้น

สื่ออังกฤษรายงานว่า ในหนัง เจมส์ บอนด์ ภาคต่อไปซึ่งจะเป็นภาคที่ 25 ที่จะเข้าฉายในปีหน้า เราจะได้เห็นบอนด์ขับรถพลังงานไฟฟ้าของ Aston Martin รุ่น Rapide E ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของ Aston Martin ที่ผลิตออกมาเพียงแค่ 155 คัน

โดยไอเดียนี้มาจาก 'แครรี่ ฟูกูนากะ' ผู้กำกับหนัง เจมส์ บอนด์ ภาคใหม่ ที่เป็นคนรักสิ่งแวดล้อมมาก เขาจึงมีความคิดว่าอยากให้บอนด์มีส่วนช่วยเป็นตัวอย่างในการใช้รถพลังงานไฟฟ้าซึ่งไม่ปล่อยมลภาวะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศให้กับคนดูทั่วโลก


friday aston02.jpg

แต่ถึง Rapide E จะเป็นรถไฟฟ้า ก็ไม่ต้องห่วงว่าบอนด์จะขับรถไล่ล่าผู้ร้ายไม่ทัน เพราะรถคันนี้มีกำลังสูงสุด 610 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 950 นิวตันเมตร เร่งความเร็วได้ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4 วินาที ใช้แบตเตอรี่ขนาด 800 โวลต์ เมื่อชาร์จเต็ม สามารถเดินทางได้ไกล 321 กิโลเมตร ราคารถอยู่ที่ 250,000 ปอนด์ หรือประมาณ 11 ล้านบาท และจะเริ่มส่งมอบให้กับผู้ซื้อในช่วงปลายปีนี้

ที่ผ่านมา เจมส์ บอนด์ ขึ้นชื่อเรื่องมีไลฟ์สไตล์ที่ใช้แต่สินค้าหรูหราและฟุ่มเฟือย การแสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ใส่ใจสิ่งแวดล้อมของบอนด์ แม้เพียงน้อยนิด ก็มีส่วนช่วยรณรงค์ให้คนดูหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะบอนด์ก็ได้ชื่อว่าเป็นตัวละครที่มีผู้ติดตามดูทั่วโลก

นอกจากนี้ ในปัจจุบัน มลภาวะดูเหมือนว่าจะเป็นอันตรายต่อมนุษย์มากยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ายกลุ่มไหนๆ จึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่สายลับอันดับ 1 ของโลก หันมาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้