นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า เวลาที่พรรคฝ่ายค้านได้รับจัดสรรให้อภิปรายนโยบายของรัฐบาล 13 ชั่วโมง 30 นาทีนั้นอาจไม่เพียงพอ โดยเฉลี่ยให้ผู้อภิปรายได้คนละประมาณ 5-6 นาทีเท่านั้น ซึ่งได้ปรับจำนวนและเนื้อหาลงให้สอดคล้องกับเวลาที่ได้รับ โดยมีบางเรื่องที่อาจไม่ได้อภิปราย โดยจะขอไปยังรัฐบาลและประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ 27 ก.ค. 

ขณะที่ฝ่ายค้านจะเดินหน้าอภิปรายคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่กังวลว่าจะมีการหยิบยกกรณีศาลรัฐธรรมนูญอยู่ระหว่างการวินิจฉัยมาเป็นประเด็นเพื่อปิดกั้นฝ่ายค้าน เพราะทั้งนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีต่างบอกว่าฝ่ายค้านสามารถอภิปรายคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ได้ เพียงแต่ต้องอยู่ในกรอบ ซึ่งได้ทำความเข้าใจกับผู้อภิปรายของพรรคฝ่ายค้าน ว่าต้องอภิปรายอยู่ในกรอบและไม่เป็นการชี้นำศาล ซึ่งเรื่องที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายคุณสมบัติของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นมีเรื่องที่ไม่ได้อยู่ในสำนวนของศาลด้วย

นายสุทิน กล่าวต่อว่า มีหลายเรื่องที่พรรคฝ่ายค้านจะต้องอภิปราย โดยการจัดทำนโยบายซึ่งรัฐบาลเขียนรัฐธรรมนูญเองกลับไม่ได้ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ องค์ประกอบของนโยบายที่ไม่สมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่และอาจเป็นมาตรฐานการปฏิบัติในอนาคต มีบางเรื่องที่ได้บอกกับประชาชนไว้แต่กลับไม่ได้เขียนในนโยบาย ขณะที่บางเรื่องต่างชาติสนใจอยากรู้แต่รัฐบาลกลับไม่ได้พูดถึง

ส่วนกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ฝ่ายค้านจะมีการอภิปรายในเรื่องนี้ด้วย เพราะรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ เป็นพื้นฐานในการนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเรื่องอื่น โดยเฉพาะเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน หากรัฐธรรมนูญและการเมืองเป็นเช่นนี้ การแก้ไขปัญหาของประเทศจะเป็นไปไม่ได้ ส่วนประเด็นที่ฝ่ายค้านจะดำเนินการแก้ไขนั้นยังไม่ได้ลงในรายละเอียด เพียงแต่เห็นร่วมกันในเบื้องต้นว่าจะต้องมีการแก้ไข ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงของการสอบถามและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• 'เพื่อไทย' จี้รัฐบาลแถลงนโยบายอย่าเลี่ยงตอบเรื่องที่มาของเงิน ปชช.มีสิทธิรู้
• 12 เรื่องด่วน ครม. ประยุทธ์ 2/1 ย้ำสัญญาแก้ รธน. ปลดล็อกหลักเกณฑ์แก้ไข รธน.