จังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นจังหวัดมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศไทย ขณะที่จังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นจังหวัดใกล้เคียง พบการเกิดอุบัติเหตุสูงด้วยเช่นกัน น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สำนักงานสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า อุบัติเหตุในพื้นที่ต่างจังหวัด ส่วนหนึ่งมาจากการละเลยในการปฏิบัติตามกฏจราจร จึงเห็นว่าควรปลูกฝังให้เกิดการรับรู้และสร้างการจดจำตั้งแต่เด็ก และต้องมีความร่วมมือจากคนในครอบครัวด้วย โดยเฉพาะผู้ใหญ่
“เมื่อเด็กเห็นผู้ใหญ่ไม่ทำเป็นต้นแบบ จะเกิดเป็นคำถามว่า ทำไมต้องใส่หมวกนิรภัย ในเมื่อผู้ใหญ่ไม่สวมใส่ คงตอบคำถามได้ยาก แต่เชื่อว่าท้ายสุดทุกคนสามารถลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการลด และป้องกันอุบัติเหตุได้ง่ายๆ โดยเริ่มจากตัวเองก่อน จึงเกิดโครงการนำร่องในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งครูมีส่วนสำคัญในการสอนและบอกกล่าวกับผู้ปครองให้เข้าใจ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาได้ดำเนินการที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง จ.ลำพูนและศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาล ต.สุเทพ อ.เมือง จังหวัดเชียงใหม่” น.ส.รุ่งอรุณ กล่าว
ด้าน น.ส.วชิราภรณ์ บัวอ้าย ครูเด็กเล็กศูนย์พัฒนาเด็ก เทศบาล ต.สุเทพ เปิดเผยว่า ที่ศูนย์ฯ มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงอนุบาล 3 จำนวน 158 คน มีการเรียนการสอนด้วยการสอดแทรกความรู้เรื่องวินัยจราจรเข้ากับ 6 กิจกรรมหลัก คือ 1.กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ เช่น ให้ทำท่าประกอบตามเพลง การร้องหรือเต้น 2.เสริมประสบการณ์ คือ การเล่านิทาน เล่นเกม ตอบคำถาม ก่อนนำเข้าสู่บทเรียนหลัก 3.กิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น ระบายสี วาดภาพ ตัดปะ 4.กิจกรรมเสรี คือ การเปิดให้เล่นโซนกิจกรรม ทั้งบทบาทสมมุติเป็นทหาร ตำรวจ หรือการขับขี่รถ 5.กิจกรรมกลางแจ้ง เช่น ให้วิ่งเก็บสัญลักษณ์จราจรต่างๆ คิดบวกเลขตามจำนวนรูปภาพรถ 6.เกมการศึกษา เช่น ภาพตัดต่อ จับคู่ภาพ เศรษฐกิจพอเพียง และอื่นๆ ที่เสริมสร้างกระบวนการคิด จากการประเมินพบว่า เด็กๆ สามารถจดจำและปฏิบัติตามได้
ขณะที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.แม่แรง จ.ลำพูน น.ส.นิภาพร ปาระมี ครูประจำศูนย์ กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง ให้ปฏิบัติตามกฎหมายก่อน เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับเด็ก เช่น สวมหมวกกันน็อคทุกครั้งที่ออกจากบ้าน เพื่อสร้างความจดจำ ซึ่งกระบวนการสอนของศูนย์นอกจากสอดแทรกไปในบทเรียนและการทำกิจกรรม
ขณะที่นายธัญศักดิ์ แสงศรีจันทร์ นายกเทศมนตรีตำบลสุเทพ กล่าวว่า การทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนปลอดภัย ต้องเริ่มจากการมีจิตสำนึกที่ดี เคร่งครัดและมีระเบียบวินัยในการทำตามกฎจราจร ทั้งประชาชน และความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อความปลอดภัยของส่วนรวม หลายปัจจัยที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นแล้วว่าประเทศไทยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจนนำไปสู่สถิติอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งทุกคนต้องร่วมมือกันด้านผู้ปกครองต้องการให้ลูกหลานเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยในทุกวัน และเห็นด้วยในโครงการนี้เพื่อสร้างการรับรู้เรื่องกฎจราจรตั้งแต่วัยเด็ก หลังมีการเรียนรู้พบว่าผู้ปกครองใส่หมวกกันน็อค เพื่อขับขี่รถไปทุกเส้นทางไม่ว่าใกล้หรือไกล และทำตามกฏจราจรมากขึ้น ทำให้การเกิดอุบัติเหตุในชุมชนลดลง