ผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์เทคโนโลยีคาดการณ์ว่าราคาของสมาร์ทโฟนทั้งของไอโฟนและแอนดรอยด์ จะยังแพงขึ้นไปอีก หลังจากที่ไอโฟน 10 ของแอปเปิล ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว มีราคาเริ่มต้นสูงถึง 999 ดอลลาร์ หรือราว 33,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิพของแอปเปิลที่มีราคาสูงที่สุด แต่ยังคงขายได้ดี ทำให้รายได้และกำไรของบริษัทแอปเปิลในปีนี้เพิ่มสูงขึ้น จนกลายเป็นบริษัทแรกของโลกที่มีมูลค่าหุ้นสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 33 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่าผู้บริโภคพร้อมที่จะจ่ายราคาแพงขึ้น เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด
ที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ไอโฟนเท่านั้น ที่มีราคาสูงขึ้นทุก ๆ ปี แต่สมาร์ทโฟนรุ่นแฟลกชิพของซัมซุงและหัวเว่ยก็แพงขึ้นทุกปีเหมือนกัน โดยซัมซุง Galaxy S9 มีราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก Galaxy S7 ถึง 15 % ขณะที่หัวเว่ยรุ่นล่าสุด P20 ก็มีราคาแพงกว่ารุ่น P9 ที่วางจำหน่ายเมื่อปี 2016 ถึง 33%
เบน วูด หัวหน้านักวิเคราะห์จากซีซีเอส อินไซท์ ให้ความคิดเห็นว่า ผู้บริโภคพร้อมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากกับการซื้อสมาร์ทโฟน เพราะมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากที่สุดในชีวิตประจำวัน ทำให้บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจำนวนมากแข่งขันกันที่จะผลิตสมาร์ทโฟนที่รวดเร็วขึ้น สวยงามขึ้น ใช้งานได้นานขึ้น และถ่ายรูปได้สวยขึ้น ทำให้ต้นทุนการวิจัย พัฒนา และการผลิตอะไหล่ มีราคาแพงขึ้น ซึ่งทำให้ราคาของสมาร์ทโฟนพุ่งสูงขึ้น
แคโรไลนา มิลาเนซี นักวิเคราะห์จาก ครีเอทีฟ สตาร์เตจี มองว่าไอโฟน 10 ที่มีราคา 999 ดอลลาร์ ได้สร้างมาตรฐานราคาของสมาร์ทโฟนรุ่นแฟล็กชิพสำหรับแบรนด์อื่นๆให้เดินตาม เพราะถ้าไอโฟน 10 ที่มีราคา 999 ดอลลาร์ ยังขายได้ดี หากแบรนด์อื่นๆตั้งราคาในระดับเดียวกัน ก็น่าจะไม่ถือว่าแพงเกินไป และจะทำให้ราคาของสมาร์ทโฟนค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งแม้ผู้บริโภคจะบ่นเรื่องราคาแพง แต่คนจำนวนมากก็ยังพร้อมที่จะควักเงินในกระเป๋าเพื่อซื้อสมาร์ทโฟนแฟล็กชิพรุ่นล่าสุด
ภาพ: AFP